แม้หลายอุตสาหกรรมทั้งโรงงาน, ธนาคาร รวมถึงค้าปลีกบางรายบอกว่าปี 2563 หินสุดๆ แต่กลุ่มเซ็นทรัลยังเชื่อว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคปีนี้ยังเป็นบวก เพราะหลายมาตรการภาครัฐช่วยกระตุ้นการจับจ่ายทั้งคนไทย และนักท่องเที่ยว
ไตรมาสแรกตรุษจีนสำคัญสุด
ปี 2563 คือปีหนูทองที่ 60 ปีจะมีครั้งหนึ่ง ประกอบกับวันตรุษจีนที่เป็นหนึ่งในวันที่มีการจับจ่ายสินค้าของกลุ่มเซ็นทรัลสูงที่สุดอีกช่วงเวลาหนึ่งก็มาอยู่ในเดือนม.ค. จากปกติที่อยู่ในเดือนก.พ. ทำให้กลุ่มเซ็นทรัลตัดสินใจเดินหน้าแคมเปญการตลาดตั้งแต่ต้นปีเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายภายในธุรกิจต่างๆ ของกลุ่มเซ็นทรัล
ณัฐธีรา จิราธิวัฒน์ บุญศรี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด เล่าให้ฟังว่า กำลังซื้อของผู้บริโภคเติบโตไปยังทิศทางบวก เนื่องจากมาตรการการกระตุ้นจับจ่ายของภาครัฐ รวมถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ เทศกาลตรุษจีนจะเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนการจับจ่าย
“ในปีที่ผ่านมามีการสำรวจพบว่าแค่ช่วงเทศกาลตรุษจีนก็มีการจับจ่ายถึง 13,000 ล้านบาทในประเทศไทย ดังนั้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นการจับจ่ายในเทศกาลนี้ กลุ่มเซ็นทรัลจึงเดินหน้าแคมเปญการตลาดในธุรกิจต่างๆ ของทางกลุ่ม โดยคิดเป็นมูลค่าการลงทุนกว่า 50 ล้านบาท”
12-15% ที่ต้องเติบโตในช่วงตรุษจีน
สำหรับแคมเปญการตลาดนั้นกลุ่มเซ็นทรัลได้รวมเอาช่องทางต่างๆ ทั้งห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ท็อปส์, แฟมิลี่มาร์ท, มัทสึโมโตะ คิโยชิ, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, เพาเวอร์บาย, ซูเปอร์สปอร์ต, ซีเอ็มจี และบีทูเอส มาตอบโจทย์ผู้ซื้อ และผู้ซื้อสามารถใช้บริการซื้อออนไลน์ได้ ทำให้ตอบโจทย์ค้าปลีกแบบ Omni-Channel อย่างสมบูรณ์
ทั้งนี้สินค้าที่มีการจับจ่ายสูงที่สุดในช่วงตรุษจีนของกลุ่มเซ็นทรัลประกอบด้วยเครื่องสำอาง, เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก, เครื่องแต่งกาย, อาหาร และอุปกรณ์กีฬา โดยปกติแล้วการเติบโตในช่วงตรุษจีนของกลุ่มเซ็นทรัลจะอยู่ที่ 12-15% ซึ่งในปี 2563 นี้ทางกลุ่มก็ยังคาดหวังการเติบโตในอัตราเดิม
ยกระดับการทำตลาดด้วย Big Data
ในแคมเปญการตลาดช่วงตรุษจีนของกลุ่มเซ็นทรัลมีการใช้ Big Data Analytics เข้ามาช่วยวิเคราะห์การทำตลาดผ่านการนำข้อมูลลูกค้า The 1 ทั้งหมด 28.8 ล้านคนทั่วโลก (จากธุรกิจในไทย, เวียดนาม และอิตาลี) เพื่อสร้างโปรโมชั่นให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคนมากที่สุด
สรุป
เทศกาลตรุษจีนเป็นเทศกาลสำคัญในประเทศไทย เพราะมีการจับจ่ายในช่วงเวลาสั้นๆ ค่อนข้างสูง ดังนั้นการที่กลุ่มเซ็นทรัลจะทุ่มเงินทำตลาดในช่วงเวลานี้ซึ่งก็ทำมาทุกปีจึงเป็นเรื่องที่ต้องทำ แต่ที่น่าสนใจคือการใช้ความเป็น Omni-Channel และ Big Data Analytics เข้ามาช่วยยกระดับแคมเปญของช่วงเวลานี้ให้มีประสิทธิภาพขึ้นไปอีกขั้น
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา