ช่วงนี้ธุรกิจสายการบินค่อนข้างแข่งขันกันสูง โดยเฉพาะสายการบินในทวีปเอเชียที่แข่งขันกันแย่งนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีกำลังซื้อสูง และนี่คือหนึ่งในปัจจัยที่ Cathay Pacific และสายการบินพรีเมียมอื่นๆ ต้องคิดหนัก
CEO ใช้ยาแรงปรับโครงสร้าง
เมื่อการแข่งขันเพื่อแย่งชิงนักท่องเที่ยวชาวจีนหนักหน่วงมากขึ้น ประกอบกับปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ทำให้สายการบินในจีนแผ่นดินใหญ่เริ่มมีบทบาทในอุตสากรรมมากขึ้น ซึ่งล่าสุดเรื่องนี้ส่งผลถึงสายการบินระดับพรีเมียมในทวีปเอเชียเป็นอย่างมาก และหนึ่งในนั้นคือ Cathay Pacific
Rupert Hogg ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ที่เพิ่งรับตำแหน่งเดือนพ.ค. ของ Cathay ยอมรับว่า บริษัทต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อรักษาการเติบโต และลูกค้าเอาไว้ หลังจากผลประกอบการของปี 2559 ลดลง และปีนี้ก็อาจจะไม่เป็นที่น่าพอใจนัก ทำให้บริษัทตัดสินใจปลดพนักงาน 600 ตำแหน่ง ถือเป็นจำนวนมากที่สุดในรอบ 20 ปี
การปลดพนักงานครั้งนี้จะประกอบด้วย 25% ของฝั่งบริหาร และ 18% ของฝั่งปฏิบัติการ แต่ทั้งหมดนี้จะไม่รวมพนักงานกลุ่ม Frontline หรือพนักงานต้อนรับ กับเจ้าหน้าที่ขับเครื่องบิน ซึ่งถ้านับถึงเดือนมี.ค. Cathay มีพนักงานทั้งหมด 33,700 คนทั่วโลก และการปรับลดพนักงานครั้งนี้คือหนึ่งในแผนปรับโครงสร้างองค์กรใน 3 ปี
คู่แข่งจากจีนค่อนข้างน่ากลัว
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น เมื่อราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ทำให้สายการบินจากประเทศจีนตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวมากกว่า ผ่านราคาตั๋วที่ถูก ดังนั้น Cathay จึงเตรียมปรับกลยุทธ์ทำตลาดการเดินทางระยะสั้นมากขึ้น ด้วยสายการบินลูกของตัวเองในชื่อ Cathay Dragon
ขณะเดียวกันทาง Singapore Airlines ก็เตรียมปรับกลยุทธ์รับเรื่องนี้เช่นกัน เพราะผลประกอบการไตรมาสล่าสุดก็ลดลงกว่าเป้า ส่วนสายการบินจากจีนอย่าง Hainan Airlines กลับเตรียมลงทุนกว่า 4,200 ล้านดอลลาส์สหรัฐ หรือราว 1.4 แสนล้านบาท เพื่อซื้อเครื่องบินลำใหม่ ใช้ในการบินระยะไกลเป็นหลัก
สรุป
การเดินหน้ารุกตลาดสายการบินจากจีนแผ่นดินใหญ่นั้นถือว่าเล่นเอาสายการบินระดับพรีเมียมในเอเชียด้วยกันไปแทบไม่เป็น เพราะด้วยราคาตั๋วที่ถูกกว่า และบินในระยะไกลๆ ได้ คนจีนก็ย่อมสนับสนุนสายการบินในประเทศ ดังนั้นโอกาสในการฟื้นตัวของธุรกิจกลุ่มนี้ก็ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด
อ้างอิง // Reuters
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา