ดูเผินๆ ก็เป็นป้ายโฆษณาของบริษัทรับสมัครงานแห่งหนึ่ง ที่ใช้แนวคิดใหม่ในการจับอินไซต์ของมนุษย์เงินเดือนมาเล่น แต่ลึกๆ ก็มีดราม่าซ่อนอยู่ไม่น้อย เพราะคนในวงการเอเยนซี่มองว่าคิดงานโดยไม่รับผิดชอบต่อสังคม!
ต่างมุมมอง ต่างประเด็น
ในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้หลายคนต้องได้พบเห็นป้ายโฆษณาของบริษัทรับสมัครงานแห่งหนึ่งตามห้องถนนอย่างแน่นอน เป็นป้ายของ WorkVenture เว็บไซต์หางาน เป็นสตาร์ทอัพที่ก่อตั้งเมื่อปี 2557 แต่เพิ่งเห็นบุกตลาดอย่างหนักเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ป้ายโฆษณาดังกล่าวส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบของสื่อนอกบ้าน ป้ายบิลบอร์ด สื่อบนรถไฟฟ้า ป้ายริมถนน สื่อบนรถเมล์ ป้ายโฆษณาดิจิทัลตามห้าง เพื่อสร้างอิมแพ็คแก่บุคคลที่สัญจรไปมา
โดยคอนเทนต์ที่ที่ใช้ในงานโฆษณาครั้งนี้เป็นการดึงเอาอินไซต์ของคนทำงาน มนุษย์เงินเดือนทั้งหลายที่มีปัญหาในการทำงานจนอยากเปลี่ยนงาน เช่น เรื่องหัวหน้า ทำงานหนัก เงินเดือนน้อย มาเป็นประเด็นหลักที่ทำให้คนอยากเปลี่ยนงาน เหมือนมาเป็นเรื่องโน้มน้าวใจให้เข้าไปที่เว็บไซต์
พร้อมกับใช้ความเป็น Personalize ด้วยการใส่ชื่อเล่นยอดนิยมของคนไทย เช่น ต้น พลอย ออย นก ไมค์ และอื่นๆ มาใช้ เพื่อให้เกิดอิมแพ็คมากขึ้น คนพบเห็น หรือชื่อตรงกับป้ายโฆษณาก็รู้สึกอินไปด้วยถ้าอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน อีกทั้งยังได้ Free Media ในการถ่ายภาพแชร์ต่อๆ กันไปได้อีก เพราะมีความแปลกใหม่
เพราคนไทยชอบแคมเปญในรูปแบบ Personalize อยู่แล้ว อย่างโค้กที่เคยออกแคมเปญ Share a Coke ที่นำชื่อเล่นมาอยุ่บนฉลากขวดโค้ก ก็ทำให้คนแชร์ต่อกัน และประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะคนไทยรู้สึกอินว่าสินค้าที่สร้างมาเพื่อเขา
ในแง่ของครีเอทีฟ ก็ถือว่าสร้างความแปลกใหม่ได้ดี เพราะไม่เคยเห็นแคมเปญแบบนี้มาก่อน สามารถสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ยิ่งมีการลงสื่อในหลายๆ ที่พร้อมกัน ยิ่งทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
แต่อีกมุมหนึ่งก็เหมือนมีดราม่าเล็กๆ เกิดขึ้น เมื่อมีคนในวงการเอเยนซี่ได้แชร์ความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ ได้มองว่าเป็นการคิดงานแบบไม่รับผิดชอบต่อสังคมหรือเปล่า เป็นการปลูกฝังทัศนคติแย่ๆ ในการทำงาน ความไม่อดทน ความไม่เป็นมืออาชีพในการทำงาน เหมือนเอาอินไซต์ด้านมืดมาขายงาน
ซึ่งก็เป็นการมองต่างมุมกันไป บางคนพบเห็นก็มองว่าสร้างสรรค์ บางคนก็มองว่าไม่สร้างสรรค์
สรุป
- จากป้ายโฆษณาดังกล่าว ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ที่ทำให้ได้เห็นถึงงานโฆษณาแปลกใหม่ในวงการบ้านเราบ้างแล้ว เพราะปกติจะเห็นแต่ป้ายโฆษณาที่ขายของตรงๆ มากกว่า
- ในประเด็นอื่นๆ อาจจะไม่ขอฟันธงว่าเป็นทิศทางไหน เพราะขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนจริงๆ แต่ก็เป็นบทเรียนให้ครีเอทีฟคิดงานบนพื้นฐานของความสร้างสรรค์ และความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย เพราะในสังคมตอนนี้มีแต่เรื่องราวดราม่าเกิดขึ้นทุกวัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา