เทรนด์ผู้บริโภครักสุขภาพ และความสะดวกสบายยังเดินต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวก็ไปกระทบหลายธุรกิจ ล่าสุดก็ Campbell Soup ยักษ์ใหญ่ธุรกิจ Packaging Food ที่มีซุปกระป๋องเป็นรายได้หลัก ก็มีรายได้ไตรมาสล่าสุดลดลง 1%
ผู้บริโภคยอมซื้อของสด และมองข้ามอาหารกระป๋อง
เรียกได้ว่าใครปรับตัวไม่ทันเทรนด์รักษาสุขภาพ ผู้ประกอบการรายนั้น โดยเฉพาะที่อยู่ในธุรกิจอาหารก็อยู่ลำบากขึ้นแน่นอน เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มตัดสินใจไปซื้อของสดมาปรุงมาอาหารเองมากขึ้น และเริ่มไม่ง้อน้ำผลไม้บรรจุขวด หรือซุปบรรจุกระป๋องเหมือนในอดีต นั้นทำให้กลุ่ม Packaging Food นั้นอยู่ลำบากมากขึ้น
Denise Morrison ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Campbell Soup ยอมรับว่า ธุรกิจ Packaging Food หรืออาหารสำเร็จรูปประเภทบรรจุหีบห่อในรูปแบบต่างๆ เริ่มอยู่ยากขึ้น เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคที่เริ่มรักสุขภาพมากขึ้น รวมถึงการมาถึงของบริการสั่งอาหารจากแพลตฟอร์มต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกมากขึ้นในยุคนี้
ซึ่งจากปัจจัยทั้งหมดทำให้รายได้ไตรมาสสุดทท้าย (สิ้นสุด 30 ก.ค. 2560) ของกลุ่ม Campbell Soup นั้นลดลง 1.4% เหลือ 1,660 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 55,000 ล้านบาท) ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อย โดยถ้าเจาะไปที่ธุรกิจซุปกระป๋องที่มีสัดส่วนรายได้มากที่สุดนั้นลดลงถึง 4% เมื่อเทียบกับเวลาเดียวกันของปีก่อน
ไม่ใช่แค่นั้น ธุรกิจ Biscuit กับ Snack ที่ถือแบรนด์ Pepperidge Farm และ Goldfish ก็แทบไม่มีการเติบโต ส่วนธุรกิจอาหารสดที่ถือแบรนด์ Bolthouse Farms ก็เติบโตขึ้น 1% ซึ่งทาง Campbell Soup ได้คาดการณ์รายได้ในปีหน้าไว้ว่าจะหดตัวไม่เกิน 2% เมื่อเทียบกับรายได้ปีนี้ 7,890 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2.6 แสนล้านบาท ซึ่งลดลงจากปี 2559 ราว 1%
สรุป
การเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วคือเรื่องจำเป็นในการทำธุรกิจยุคนี้ และยิ่งเป็นธุรกิจที่ยึดติดอะไรเดิมๆ แล้ว การจะเปลี่ยนอะไรก็ค่อนข้างยาก ดังนั้นคงไม่แปลกที่ธุรกิจอาหารกระป๋องอย่าง Campbell Soup จะมียอดขายลดลง ซึ่งคาดว่าประเทศไทยก็คงมีทิศทางนี้ตามมาแน่ๆ แต่จะเร็วแค่ไหนต้องคอยดูกัน
อ้างอิง // Campbell Soup, Business Insider, CNBC
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา