มหกรรมกีฬาต่างๆ เพิ่งกลับมาแข่งขันหลังหยุดพักจากการระบาดของโรค COVID-19 แต่เหตุการณ์ที่ตำรวจสหรัฐฯ ยิง Jacob Blake ชายเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน ต่อหน้าลูกของเขา อาจส่งผลให้กีฬาต่างๆ ต้องหยุดแข่งอีกครั้ง
เริ่มจากลีกบาสเกตบอล NBA
กีฬา กับผลประโยชน์ในยุคนี้ถือเป็นของคู่กัน เพราะความเป็นธุรกิจเริ่มเข้ามามีผลต่อการแข่งขันกีฬาต่างๆ มากขึ้น และในช่วงวิกฤต COVID-19 นี้ทำให้ผลประโยชน์ในวงการกีฬามีปัญหา ผ่านการเลื่อนการแข่งขัน และไม่สามารถจำหน่ายตั๋วเข้าชมให้กับผู้ที่สนใจได้ แม้รายได้จากลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดยังได้รับอยู่ก็ตาม
แต่ล่าสุด การที่ตำรวจสหรัฐอเมริกายิง Jacob Blake ชายเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน ถึง 7 นัดต่อหน้าลูกของเขา ที่เมืองเคโนช่า รัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้วงการกีฬาต้องหยุดการแข่งขันอีกครั้ง และผลประโยชน์ต่างๆ ต้องหยุดชะงักเช่นเดียวกัน
เพราะในคืนวันพุธที่ 26 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ทีม Millwalkee Bucks ในลีกบาสเกตบอล NBA ที่ต้องแข่งกับ Orlando Magic ได้ขอไม่ทำการแข่งขันในเกมที่ต้องเกิดขึ้นในวันดังกล่าวเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับ Jacob Blake และยังส่งผลถึงอีก 2 เกมการแข่งขันในวันนั้นที่ยกเลิกด้วย
มูลค่าการถ่ายทอดสดที่อาจมีปัญหา
การยกเลิกการแข่งขันย่อมส่งผลให้เม็ดเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดมีปัญหา นอกจากนี้ตัวจุดต่างๆ ในสนามที่แต่ละทีมขายพื้นที่สปอนเซอร์ให้สินค้ามากมายก็ไม่สามารถสื่อออกมาให้ผู้ชมที่ถ่ายทอดสดได้เห็น ซึ่งช่วงปกติ ผู้ชมในสนามจะเห็นแบรนด์สินค้าที่ลงโฆษณาด้วย แต่ในเวลานี้เหลือแค่ผู้ชมถ่ายทอดสดเท่านั้น
อย่างไรก็ตามยังไม่มีความชัดเจนว่าการแข่งขันในวันพฤหัสบดีที่ 27 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่นที่สนามกลางใน Disney Land ทั้ง 3 คู่จะเกิดขึ้นหรือไม่ แม้ในคืนวันที่ 26 ส.ค. จะมีการประชุมกันของนักกีฬา และทีมงานที่ตกลงจะแข่งขันต่อไป แต่กลับมีข่าวหลุดออกมาว่าทีม Los Angeles Lakers และ Los Angeles Clippers โหวตให้จบฤดูกาล
ขณะเดียวกันการหยุดการแข่งขันในคืนวันพุธ หรือ Called off Wednesday นั้นส่งผลไปถึงกีฬามหาชนของชาวอเมริกันอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นบาสเกตบอลผู้หญิงรายการ WNBA, ลีกเบสบอล MLB, ลีกฟุตบอล MLS ที่หยุดการแข่งขันในวันที่ 26 ส.ค ส่วนลีกอเมริกันฟุตบอล NFL ปัจจุบันอยู่ในช่วงปิดฤดูกาล
ไหลไปยังมหกรรมกีฬาชนิดอื่น
การประท้วงเกี่ยวกับความเท่าเทียมของชาวแอฟริกัน-อเมริกันในกรณีล่าสุดนั้นไหลไปมากกว่ามหกรรมกีฬาของชาวอเมริกัน เพราะนักกีฬาเทนนิสสัญชาติญี่ปุ่น-เฮติ Naomi Osaka ที่ถอนตัวจากรอบรองชนะเลิศของรายการ Western & Southern Open โดยให้เหตุผลว่า มีอะไรที่สำคัญมากกว่าการมาดูเธอลงแข่ง
ทั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มหกรรมการแข่งขันกีฬาออกมาประท้วงเกี่ยวกับเรื่องความเท่าเทียม เพราะเมื่อปี 2559 ทาง Colin Kaepernick นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลลีก NFL ได้คุกเข่าระหว่างเพลงชาติของสหรัฐฯ และเมื่อเดือนพ.ค. ทาง George Floyd ชายแอฟริกัน-อเมริกัน ถูกตำรวจเอาเข่ากดคอเขาจนหายใจไม่ออก
— NaomiOsaka大坂なおみ (@naomiosaka) August 27, 2020
ทำให้วงการกีฬาออกมาประท้วงเกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านการคุกเข่าระหว่างเพลงชาติของสหรัฐฯ และในธุรกิจอื่นเริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องความเท่าเทียมมากขึ้น แต่ถึงอย่างไร การประท้วงเกี่ยวกับความเท่าเทียมในวงการกีฬาน้อยครั้งที่จะถึงขั้นยกเลิกการแข่งขัน และต้องติดตามกันว่าการยกเลิกการแข่งขันจะดำเนินไปนานแค่ไหน และไปทั่วโลกหรือไม่
สรุป
เมื่อกีฬาแข่งขันโดยไม่มีผู้ชม รายได้จากการขายสินค้า และตั๋วย่อมหายไปทั้งหมด แต่ถ้าไม่มีการแข่งขันเพื่อให้มีรายได้จากการถ่ายทอดสดอีก ตัวลีกต่างๆ ต้องประสบปัญหาในเรื่องรายได้ ทั้งที่เพิ่งถูกปลดล็อคให้จัดการแข่งขันได้หลายรายการ แต่กรณีนี้ก็แสดงให้เห็นว่า ความเท่าเทียมเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้จริงๆ
อ้างอิง // NBA, The Athletic, CNN
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา