การตั้งชื่อรถยนต์ของ BYD ส่วนใหญ่จะตั้งชื่อตามราชวงศ์จีน และเพื่อให้สมกับการยกระดับอุตสาหกรรมรถยนต์ไปอีกขั้น BYD จึงตัดสินใจตั้งชื่อรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงว่า Han (ฮั่น) หรือหนึ่งในราชวงศ์ที่เจริญที่สุดของจีน
Han ที่มาพร้อมแบตเตอรี่แบบใหม่
ก่อนหน้านี้ BYD มีการตั้งชื่อรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าที่ทำตลาดด้วยการนำชื่อราชวงศ์จีนมาใช้ ไม่ว่าจะเป็น Qin (ชิง) รถเก๋งขนาด Compact, Yuan (หยวน) รถ Subcompact SUV, Song (ซ่ง) รถ Compact SUV และ Tang (ถัง) รถ Midsize SUV ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เน้นการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
แต่เมื่อเดือนมี.ค. BYD ได้พลิกเกมการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทด้วยการส่งรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงออกมา ทั้งยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่เทคโนโลยีใหม่ในชื่อ Blade Battery ที่จัดเรียงเซลล์แบตเตอรี่ใหม่ เพื่อทำตัวชุดแบตเตอรี่ให้บางที่สุด และเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่เทคโนโลยีเดิมก็จะใช้ประโยชน์จากตัวแบตเตอรี่ได้มากขึ้น 50%
นอกจากนี้ Blade Battery ยังระบายความร้อนระหว่างใช้งานได้ดีกว่าแบตเตอรี่เทคโนโลยีเดิม โดยผิวสัมผัสของ Blade Battery มีอุณหภูมิเพียง 30-60 องศาเซลเซียส ส่วนในสภาวะเดียวกัน แบตเตอรี่เทคโนโลยีเดิมจะมีอุณหภูมิมากกว่า 500 องศาเซลเซียส โดย Blade Battery จะติดตั้ง Han เป็นรุ่นแรก
สมรรถนะสูงที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ BYD
เมื่อพลิกโฉมแบตเตอรี่ได้แล้ว BYD ก็ไม่หยุดแค่นั้น เพราะ Han ถูกวางเป็นรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ถือเป็นครั้งแรกของบริษัทที่สร้างรถยนต์ไฟฟ้าแบบนี้ออกมา และเปลี่ยนภาพลักษณ์ของ BYD จากแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเชยๆ เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่โฉบเฉี่ยวขึ้น
หากเจาะลึกถึงคุณสมบัติ Han เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีขนาดเทียบเท่ารถเก๋ง 4 ประตูขนาดกลาง วิ่งได้ไกลสูงสุด 605 กม. และสามารถเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.9 วินาที มีให้เลือก 2 ระบบขับเคลื่อนคือ 2 ล้อ และ 4 ล้อ เบื้องต้นจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมิ.ย. 2563 แต่ต้องเลื่อนเป็นไตรมาส 3 เพราะโรค COVID-19 ระบาด
ปีนี้ของ BYD ที่ไม่มีอะไรง่าย
ในปี 2562 ทาง BYD จำหน่ายรถยนต์ได้ทั้งหมด 4.6 แสนคันทั่วโลก แบ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 2.3 แสนคัน และรถยนต์ใช้น้ำมัน 2.3 แสนคัน แต่ด้วย 2 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทจำหน่ายรถยนต์ได้เพียง 30,000 คัน เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 10,000 คัน และที่เหลือเป็นรถยนต์ใช้น้ำมัน เพราะการระบาดของโรค COVID-19
สรุป
การเปิดตัว Han ของ BYD ช่วยตอกย้ำถึงภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของ BYD และมันน่าจะสร้างแรงกระเพื่อมในอุตสาหกรรมนี้ไม่มากก็น้อย เพราะ BYD เริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และน่าจะเข้าไปกินส่วนแบ่งในตลาดอื่นๆ ได้ไม่ยากหากว่ากันตามสมรรถนะ ดังนั้นก็ต้องดูว่า BYD จะสามารถทำตลาดได้ดีแค่ไหนเพื่อจูงใจผู้บริโภค
อ้างอิง // BYD, Automotive News, InsideEvs
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา