BYD ยอดขายปี 2024 ทะลุ 4 ล้านคัน ยืนเหนือ Honda เหตุกลุ่ม Plug-in Hybrid ยอดขายเพิ่มขึ้น 73%

BYD ผู้ผลิตรถยนต์จากจีน และผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของโลก แจ้งยอดขายรถใหม่ทั่วโลกในปี 2024 ที่ 4.27 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 41% จากปี 2023 ตัวเลขดังกล่าวมากกว่า Honda ที่แจ้งยอดส่งมอบรถยนต์งบประมาณล่าสุดที่สิ้นสุดเดือน มี.ค. 2024 ที่ 4.1 ล้านคัน โดยเหตุผลหลักที่ทำให้เติบโตคือ Plug-in Hybrid ยอดขายเพิ่ม 73%

BYD

BYD ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) ทั่วโลกในกลุ่มรถยนต์นั่งของ BYD อยู่ที่ 1.76 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปี 2023 ส่วนรถยนต์ Plug-in Hybrid อยู่ที่ 2.49 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 73% โดยปัจจุบัน BYD ไม่มีการทำตลาดรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปเพียงอย่างเดียวแล้ว

กลุ่มรถยนต์นั่งของ BYD คิดเป็น 90% ของยอดขายทั้งหมด โดยที่เหลือมาจากกลุ่มรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เช่น รถบรรทุก และรถบัส ทั้งตัวเลขยอดขาย 4.27 ล้านคัน ยังมากกว่า Honda ที่แจ้งยอดขายทั่วโลกสิ้นปีงบประมาณล่าสุดที่สิ้นสุดเดือน มี.ค. 2024 ที่ 4.1 ล้านคัน ส่วน 6 เดือนแรกของปีงบประมาณปัจจุบันอยู่ที่ 1.77 ล้านคัน

ตัวเลขข้างต้นแสดงให้เห็นถึงรถยนต์ Plug-in Hybrid ค่อนข้างมีความสำคัญต่อยอดขาย BYD โดยเมื่อเดือน พ.ค. 2024 บริษัทมีการปรับปรุงเทคโนโลยีดังกล่าวที่ใช้ชื่อทางการตลาดว่า DM-i จนช่วยให้การขับขี่ควบคู่ระหว่างไฟฟ้า และน้ำมันทำได้ไกลถึง 2,100 กม. ช่วยจูงใจผู้ซื้อที่ยังกังวลเรื่องระยะทางของรถยนต์ไฟฟ้าล้วนได้

ตลาดต่างประเทศยังเติบโตเช่นกัน

BYD ยังประสบความสำเร็จในตลาดต่างประเทศ โดยมียอดขายรถยนต์นั่งเพิ่มขึ้น 72% เป็น 417,204 คันในปี 2024 และคิดเป็น 10% ของยอดขายทั้งหมด ทั้งยังเพิ่มจาก 8% ในปี 2023 อีกด้วย เหตุผลหลักมาจากการขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายในอาเซียน และยุโรป

อีกทั้งเดือน พ.ค. 2024 BYD เปิดตัวรถกระบะรุ่นแรกในชื่อ Shark ที่เม็กซิโก และในเดือน ก.ค. 2024 บริษัทได้เปิดโรงงานประกอบรถยนต์โดยสารแห่งแรกนอกประเทศจีนในประเทศไทย แสดงถึงความจริงจังในการเจาะตลาดต่างประเทศ ซึ่ง Shark นี้มีแผนประกอบในโรงงานที่ไทยเช่นกัน

อย่างไรก็ตามยอดขายของ BYD ในปี 2024 ได้รับแรงสนับสนุนจากการอุดหนุนของรัฐบาลจีนที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคเปลี่ยนรถเก่าเป็นรถยนต์พลังงานใหม่ เช่น รถยนต์ไฟฟ้าและ Plug-in Hybrid โดยการสนับสนุนนี้สิ้นสุดในเดือน ธ.ค. 2024

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ถ้า BYD ต้องการเติบโตในปี 2025 บริษัทต้องรักษาโมเมนตัมยอดขายโดยปราศจากการสนับสนุนดังกล่าว และแม้ BYD ยังไม่แจ้งเป้าหมายยอดขายในปี 2025 แต่การขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ให้ดีกว่าเดิม ก็ช่วยสร้างโอกาสการเติบโตเช่นกัน

Brand Inside มองว่า ความสำเร็จของ BYD ในปี 2024 สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวต่อความเปลี่ยนแปลงของตลาด และการตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีควบคู่การขยายตัวในต่างประเทศ จนปี 2025 น่าจะเป็นปีที่ดีของ BYD อีกปี

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา