ปัจจุบันเมื่อเราไปซื้อของตามห้างค้าปลีกต่างๆ อาจแปลกใจได้ว่าเนยสดของต่างประเทศหลายๆ ยี่ห้อมีราคาสูงขึ้น โดยมีหลายๆ สาเหตุประกอบกัน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะผู้ที่ชอบทำขนมหรือแม้แต่ผู้ประกอบการที่ทำเบเกอรี่
ข้อมูลล่าสุดจากทาง Bloomberg แสดงราคาของเนยสดในทวีปยุโรปพบว่าราคาขึ้นมาเป็น 6,500 ยูโรต่อตัน จากเดิมราคาประมาณ 2,350 ยูโรต่อตันในปี 2016 โดยเทรนด์ของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปและทำให้บริษัทที่เกียวข้องกับผลิตภัณฑ์นมทั้งหลายอาจต้องปรับตัวกันอีกรอบ และประเทศไทยย่อมหลีกเลี่ยงไม่พ้นกับเรื่องนี้แน่นอน
เทรนด์บริโภคนมเนยกลับมาอีกครั้ง
ความต้องการเนยสดเพิ่มขึ้นหลังจากรายงานของ USDA (คล้ายๆ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาบ้านเรา) ได้รายงานว่าคนเราควรจะได้รับไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 10% ของแคลอรี่ต่อวัน และโคเลสเตอรอลบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ควรเกิน 300 มก. ต่อวัน ทำให้กลุ่มอาหารประเภทเนยที่มีไขมันเหล่านี้ได้รับความนิยมกลับมาอีกครั้ง
ยิ่งเป็นเนยสดประเภทพรีเมียมที่มีรสชาติหอมมันแถมยังมีความนุ่มนวลด้วยแล้ว ปริมาณความต้องการยิ่งเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะผู้ผลิตรายใหญ่ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ของโลกอย่าง Arla Foods ซึ่งผลิตเนยสดประเภทพรีเมียม มียอดขายที่เติบโตขึ้นถึง 8.3% หลังจากผู้บริโภคหันกลับมาซื้อเนยสดอีกครั้ง
แม้แต่ผู้ผลิตโยเกิร์ตอาจกลับมาผลิตในแบบไขมันปกติอีกครั้ง
Danone ผู้ผลิตโยเกิร์ตรายใหญ่ที่สุดในโลกและเคยมีผลิตภัณฑ์ขายในไทย ก่อนที่จะปลีกตัวออกไปในช่วงที่ผ่านมา เตรียมที่จะผลิตโยเกิร์ตประเภทไขมันปกติอีกครั้ง แม้แต่ CEO ของ Danone อย่าง Emmanuel Faber บอกว่า 2-3 ปีที่แล้วไม่มีความคิดที่จะกลับมาผลิตโยเกิร์ตประเภทไขมันปกติอีกรอบด้วยซ้ำ
แต่เพราะว่าเทรนด์ผู้บริโภคเปลี่ยนแบบทันที หลังจากเอกสารของ USDA เผยแพร่แก่ประชาชน ทำให้ตอนนี้มั่นใจมากว่าเทรนด์นี้มาแน่นอน
สรุป
เรื่องของอาหารนั้นก็มีเทรนด์เช่นกัน แต่ถ้าเทรนด์ของอาหารเปลี่ยนแบบฉับพลันเหมือนการที่ USDA ได้ออกเอกสารมา ผู้ผลิตจะต้องปรับตัวให้ทัน ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของเนยและโยเกิร์ต แต่รวมถึงผลิตภัณฑ์นมต่างๆ อาจต้องปรับเปลี่ยนรสชาติใหม่กันอีกรอบ ซึ่งเราอาจได้เห็นเรื่องนี้ในประเทศไทยเช่นกัน
ที่มา – Bloomberg
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา