หาเหตุผลไปกิน BURGER KING หนึ่งในร้านเบอร์เกอร์ที่อร่อยที่สุด และยังประกาศบุกภาคอีสาน

flamegrilled
ย่างไฟหอมๆ

ถ้าพูดถึงร้านเบอร์เกอร์ขนานแท้และดั้งเดิม หลายคนจะนึกถึง BURGER KING (เบอร์เกอร์คิง) เพราะเป็นร้านอาหารจานด่วน (Quick Service) ที่มีภาพลักษณ์ชัดเจนในการเสิร์ฟเบอร์เกอร์เป็นหลัก แตกต่างจากคู่แข่งสำคัญในตลาดที่อาจจะมีทั้งไก่ทอด โจ๊ก หรือมีข้าวราดไปแล้ว ซึ่ง BURGER KING เชื่อว่านี่คือ จุดแข็งสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ผู้บริโภคนึกออกทันทีว่า ถ้ามาที่ BURGER KING ก็ต้องกินเบอร์เกอร์

ว่าแต่อะไรที่ทำให้ BURGER KING เป็นหนึ่งในร้านเบอร์เกอร์ที่อร่อยที่สุด และเราไม่ควรพลาดไปกิน Brand Inside ชวนไปหาคำตอบพร้อมๆ กันได้เลย

pic_burger-king-04
ประพัฒน์ เสียงจันทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

จุดเด่นที่หาได้เฉพาะ BURGER KING เท่านั้น

ประพัฒน์ เสียงจันทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือ  ไมเนอร์ ฟู๊ด ได้บอกเล่าเรื่องราวของ  BURGER KING ว่า

  • ความชัดเจนของ BURGER KING คือ การเป็น Meat Expert เชี่ยวชาญด้านเนื้อ และนำเข้าเนื้อวัวคุณภาพดีจากแหล่งผลิตที่ดีที่สุดใน ออสเตรเลีย รับประกันว่าไม่มีเบอร์เกอร์เนื้อที่ไหนดีกว่าที่นี่แน่นอน แต่ถ้าคุณไม่กินเนื้อ ก็ยังมี หมู ไก่ และปลา เป็นทางเลือกให้เช่นกัน
  • ที่อื่นอาจจะทอด แต่ที่ BURGER KING จะใช้วิธี Frame Grilled หรือย่างไฟเท่านั้น ยืนยันได้ว่าที่นี่เป็นแบรนด์เดียวที่ย่างไฟมาโดยตลอดไม่เคยเปลี่ยน เนื้อที่ได้จะหอมกว่า และไม่อมน้ำมัน
  • ด้วยแนวคิด Have it your way หรือแปลง่ายๆ ว่า สั่งเบอร์เกอร์ได้ตามใจคนกิน ซึ่งคู่แข่งอาจจะทดลองทำ แต่สำหรับ BURGER KING เป็นบริการพื้นฐานมาโดยตลอด ไม่ใช่เรื่องใหม่เลย แฟนพันธุ์แท้จะรู้
  • เบอร์เกอร์ทุกชิ้น ทำสดใหม่ 100% ไม่มีการทำเก็บไว้ เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับเบอร์เกอร์ใหม่ตามที่สั่งทุกชิ้น
14614320_10153767312341020_168085034_o
ขีด บอกระดับน้ำแข็ง 1 ใน 3 ของแก้ว
  • หลายคนอาจไม่รู้ว่า เครื่องดื่มใน BURGER KING ทุกแก้ว จะใส่น้ำแข็งแค่ 1 ใน 3 ของแก้วเป็นมาตรฐานกำหนดไว้ โดยมีขีดเป็นสัญลักษณ์บอกระดับไว้ด้วย
  • เครื่องเคียง ของหวาน ก็ไม่ธรรมดา เช่น เฟรนช์ฟรายส์ จากสหรัฐอเมริกา ที่ผ่านการผลิตแบบพรีเมียม และมีต้นทุนแพงที่สุด หรือ ซอฟเสิร์ฟ ไอศกรีมจากแหล่งผลิตนมคุณภาพในออสเตรเลีย ก็เช่นกัน

สุดท้าย แม้แต่การห่อเบอร์เกอร์ ก็สะท้อนถึงความใส่ใจเพราะที่ BURGER KING ลูกค้าสามารถวางเบอร์เกอร์ แกะกระดาษห่อออกแล้วหยิบขึ้นมากิน หรือกรณีที่ไม่ได้กินในร้าน สามารถเปิดห่อกระดาษแล้วกินในทันทีเลยก็ได้

14614453_10153767312281020_524496065_o
แกะง่าย กินได้ทันที

ครั้งแรกกับการเปิดตลาดภาคอีสาน

BURGER KING ได้เปิดสาขาแรกในภาคอีสาน ที่ เดอะมอลล์ โคราช ชั้น 1 บริเวณสโนว์โซน เพราะรู้ว่า คนอีสาน กำลังรอการมาถึงของ BURGER KING อยู่ หลังจากที่ร้านอาหารในเครือไมเนอร์ ฟู๊ด อื่นๆ มาก่อนแล้ว เช่น ซิสเลอร์, เดอะ พิซซ่า หรือ สเวนเซ่น และจากการเปิดสาขาแรก ทำให้มียอดขายสูงสุดประมาณวันละ 4 ล้านบาท จากที่ตั้งเป้าไว้ 2 ล้านบาท เป็นผลตอบรับที่ดีเกินคาด

ทำให้ BURGER KING เตรียมแผนในการขยายสาขาเพิ่มทันที โดยตั้งเป้าไว้ 4 สาขาในภาคอีสาน ที่ อุดรธานี และขอนแก่น ส่วนจังหวัดอื่นๆ ยังต้องรอดู ถ้ามีพื้นที่ดีๆ ไปแน่นอน

pic_burger-king-the-mall-korat-07
สาขาภาคอีสาน แห่งแรก

โปรฯ 59 บาท ราคาที่จับต้องได้ ท้าชนคู่แข่ง

เมนูที่ขายดีที่สุดของ BURGER KING คือ WHOPPER เบอร์เกอร์เนื้อชิ้นโต ซึ่งยอมรับว่าราคาค่อนข้างสูง ทำให้การใช้เงินต่อผู้บริโภคของ BURGER KING อยู่ที่ 220-230 บาท แต่เพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้าใหม่ให้เข้ามาทดลองความแตกต่าง BURGER KING จึงจัดเมนูใหม่ HONEY CHIC’N CRISP เบอร์เกอร์ไก่ ราคา 59 บาท (จากปกติราคา 99 บาท) ในขนาดพอเหมาะ พอดีคำ

ปรากฏว่า BURGER KING นอกจากจะรักษาฐานลูกค้าแฟนเบอร์เกอร์กลุ่มเดิมได้ ยังได้ลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามาทดลอง ดังนั้นจึงวางแผนใช้โปรฯ 59 บาท ยาวตลอดปี 60 ทั้งปี โดยเมนูจะเปลี่ยนทุกๆ 6 สัปดาห์ มีทั้ง ไก่, หมู และ ปลา ให้ได้เลือก

แต่แน่นอนว่าพระเอกยังคงเป็น WHOPPER เช่นเดิม โดยมีการคิดโปรฯ เมนูใหม่ออกมาทุกๆ 8 สัปดาห์เช่นกัน

pic_burger-king-the-mall-korat-11

แผนขยายสาขา เพิ่มยอด เพิ่มลูกค้า

พื้นที่การลงทุนหลักของ BURGER KING ยังอยู่ที่ กรุงเทพชั้นใน, ภาคใต้และภาคตะวันออก ซึ่งเป็นตลาดหลัก เช่น ภูเก็ต, กระบี่, สมุย, พัทยา, ระยอง และศรีราชา ขณะที่ภาคอีสานและภาคเหนือ จะต้องศึกษาพื้นที่ที่ดีจริงๆ ก่อน โดยปี 60 มีแผนขยายสาขาทั้งหมด (รวมอีสาน 4 สาขา) ทั้งหมด 15 สาขา ดูแลโดย ไมเนอร์ ฟู๊ด ทั้งหมด

สำหรับปัจจุบันมีสาขาอยู่ 67 สาขา มีแผนเปิดให้ครบ 72 สาขาในปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้กว่า 1,700 ล้านบาท โดยลูกค้าทั้งหมด 50% เป็นลูกค้าคนไทย และ 50% เป็นลูกค้าต่างประเทศ

และจากแผนการขยายสาขาเพิ่ม 15 แห่งในปีหน้า คาดว่าจะมีรายได้ถึง 2,300 ล้านบาท โดยแผนระยะยาวจะขยายสาขาให้ครบ 180 แห่งในอีก 5 ปีข้างหน้า

pic_burger-king-the-mall-korat-14

สรุป

ตลาดอาหารจานด่วน คู่แข่งในตลาดหลักคือ KFC และ McDonald ที่เป็นร้านอาหารในลักษณะคล้ายๆ กัน และยังมี มอสเบอร์เกอร์ และ คาร์ลจูเนียร์ ในกลุ่มร้านเบอร์เกอร์ด้วย ทำให้การแข่งขันค่อนข้างหนักหน่วงพอสมควร แต่จุดเด่นของ BURGER KING สำหรับคนที่เคยกิน คือ ความโดดเด่นของเบอร์เกอร์เนื้อต้นตำรับย่างไฟ และความง่ายในการเข้าถึง นอกจากในห้าง ก็มีร้านที่เปิดอยู่ด้านนอก และยังมีที่เปิด 24 ชั่วโมงให้ไปนั่งได้ด้วย แม้ว่าจะไม่ได้หาง่ายเท่ากับ McDonald แต่ก็ถือว่า ถ้าใครมองหาเบอร์เกอร์ ที่นี่ก็เป็นทางเลือกแรกๆ ได้เช่นกัน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา