หลังจากรถไฟฟ้าบนดินที่พาดผ่านใจกลางกรุงเทพอย่าง BTS เสียในชั่วโมงเร่งด่วนติดต่อกันถึง 3 วัน (จันทร์ที่ 25 – พุธ 27 มิ.ย.2561) คนทำงานก็เดือดร้อนกันไปทั่ว ไม่ว่าจะไปทำงานสายกว่า 2-3 ชม. บางคนเร่งด่วนจนต้องไปพึ่งวินมอเตอร์ไซด์ที่คิดเงินมหาโหด ยังไม่รวมกับรถที่ต้องติดบนถนนนานกว่าปกติ
เรียกได้ว่าผลกระทบทั่วถึงทุกคน แต่หุ้นของ BTS ได้รับผลกระทบอะไรไหม?
![](https://brandinside.asia/wp-content/uploads/2018/06/shutterstock_22843177.jpg)
รถไฟฟ้า “พัง” หุ้น BTS แทบไม่กระทบ
ปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนายการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) บอกว่า จากความขัดข้องในการให้บริการรถไฟฟ้า ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTS) น้อยมาก เพราะตัวหุ้นผสมมาจากหลายธุรกิจ รถไฟฟ้าเป็นธุรกิจส่วนเดียวเท่านั้น ตอนนี้เราก็รอดูข้อมูลอื่นเพื่อมาพิจารณาเพิ่มเติมอยู่
ส่วนราคาหุ้นที่ตกลงวันละเล็กวันละน้อยหลายวันที่ผ่านมา เกิดขึ้นจากภาวะตลาด เพราะภาพรวมราคาหุ้น BTS ยังปรับลดน้อยกว่าราคาหุ้นหลายตัวในตลาด
![](https://brandinside.asia/wp-content/uploads/2018/06/shutterstock_1036745563.jpg)
แต่การที่รถไฟฟ้า BTS เสีย เบื้องต้นเราประเมินว่ารายได้ของธุรกิจรถไฟฟ้าจะลดลง 174.2 ล้านบาท จากที่มองว่าจำนวนผู้โดยสารลดลง 50% ในช่วง 6 วัน (24-29 มิ.ย.) และคาดการณ์ว่าจะกระทบกับกำไรสุทธิของ BTS ในปีนี้(เม.ย. 2561 – มี.ค.2562)ประมาณ 1.6%
ทว่าปีนี้ยังมองว่ากำไรสุทธิของ BTS ยังโตตามที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.72 พันล้านบาท และมีกำไรต่อเนื่องถึงปีถัดไป (เม.ย.2562- มี.ค. 2563)คาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3.99 พันล้านบาท เพราะเห็นพัฒนาการที่ดีจาก Platform ธุรกิจของบริษัท (ที่สำคัญคือธุรกิจรถไฟฟ้า, สื่อ และ อสังหาริมทรัพย์) รวมถึงรายได้จากการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองคาดว่าจะอยู่ที่ 2.0-2.5 หมื่นล้านบาท
“เรายังคง คำแนะนำซื้อ และให้ราคาเป้าหมายช่วงเม.ย. 2561 – มี.ค.2562ใหม่ที่ 11.20 บาท”
![](https://brandinside.asia/wp-content/uploads/2018/06/shutterstock_631776260.jpg)
ในขณะที่ปัจจัยลบจากสถาการณณ์ความขัดข้องของ BTS มี 3 ข้อ คือ 1. คาดว่าบริษัทจะรับรู้รายได้ลดลงประมาณ 6 วัน (ระหว่างวันที่ 24-29 มิ.ย.) 2) อาจมีค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว (เช่น ค่าใช้จ่ายพนักงาน, เงินช่วยเหลือผู้ใช้บริการ) 3 ) การลงทุนในอนาคตเพื่อปกป้องระบบ
![](https://brandinside.asia/wp-content/uploads/2018/06/shutterstock_371753161.jpg)
คนกรุงเซ็ง BTS “แพง” ขึ้นตลอด ว่าแต่ทำไมต้องแพง?
แหล่งข่าวจากธุรกิจขนส่งมวลชนบอกว่า สาเหตุที่ราคาค่าโดยสาร BTS แพงกว่ารถไฟฟ้าใต้ดิน MRT อยู่ที่เกณฑ์ที่ตั้งไว้แต่แรก ซึ่ง MRT มีส่วนที่ภาครัฐสนับสนุน ค่าโดยสารเลยถูกกว่า อย่างไรก็ตามถ้า BTS เลือกที่จะลดราคาลงก็น่าจะเป็นผลดีให้คนใช้งานมากขึ้น รายได้ก็ยังเติบโตได้เช่นกัน
ขณะเดียวกันถ้า BTS เข้าร่วมในตั๋วร่วม หรือ บัตรแมงมุม บัตรที่สามารถใช้ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า ฯลฯในบัตรเดียว จะทำให้ค่าโดยสารถูกลงเพราะสามารถทำเป็น Common fair เช่น รัฐสามารถกำกับค่าแรกเข้ารถไฟฟ้าแต่ละสายได้ถูกลง ฯลฯ โดยรูปแบบนี้มีที่ฮ่องกงใช้อยู่ ในขณะที่ญี่ปุ่นแม้มีรถไฟฟ้าเป็นสิบสาย แต่ค่าแรกเข้ารถไฟฟ้าแต่ละสายที่เชื่อมกันก็ถูก ทำให้ค่าโดยสารไม่แพง
นอกจากนี้ยังมีสามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารให้ถูกลงได้อีกหลายแบบ เช่น Flat rate (แบบคงที่) หรือเก็บค่าโดยสารตามโซน จะสนับสนุนให้ประชากรอยู่ในโซนมากขึ้นด้วย
![](https://brandinside.asia/wp-content/uploads/2018/06/shutterstock_1118624738.jpg)
ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไม BTS ไม่เข้าร่วม บัตรแมงมุม มาจาก 2 เรื่อง 1. การป้องกันผลประโยชน์ของ BTS เพราะเมื่อมีคนเอาเงินมาใส่ทิ้งไว้ในบัตรโดยสารที่เป็น E-wallet แบบหนึ่ง แม้ว่า BTS จะเอาเงินก้อนนี้ไปใช้ไม่ได้ (ตามกฏของธนาคารแห่งประเทศไทย) แต่สามารถใช้ดอกเบี้ยที่เกิดจากเงินที่แช่อยู่ในนี้ได้ ซึ่งไม่ใช่น้อย
และ 2. BTS มีธุรกิจ Non-transit คือธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง เช่น ธุรกิจอื่นๆ บนบัตรแรบบิท ซึ่งลงทุนไปเยอะ
![](https://brandinside.asia/wp-content/uploads/2018/06/shutterstock_217421431.jpg)
“พอ” เถอะปัญหา กสทช. ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หลังการประชุมเพื่อแก้ปัญหา BTS ขัดข้อง ระหว่าง กสทช. (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น TOT DTAC (Total Access Communication) และ Bangkok Mass Transit System (BTS.BK/BTS TB) เมื่อเย็นวันที่ 27 มิ.ย.
มีข้อสรุปว่า กสทช. แนะนำให้ BTS ใช้คลื่นย่านควาทถี่ 2480-2495MMHz แทนเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น เพราะคลื่น 2370-2400MHz ที่ TOT และ DTAC ใช้อยู่ห่างจากคลื่น 2400MHz ที่ BTS ใช้สำหรับระบบอาณัติสัญญาณพอ ซึ่งทาง TOT จะหยุดใช้คลื่น 2300MHz ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าชั่วคราวจนกว่า BTS จะเปลี่ยนอุปกรณ์เพื่อย้ายคลื่นความถี่เสร็จเรียบร้อย
ซึ่ง BTS จะดำเนินการเสร็จภายในวันที่ 29 มิ.ย. และให้บริการปกติในวันที่ 30 มิ.ย. มีข่าวว่าสัปดาห์หน้า BTS เตรียมออกข้อสรุปว่าจะชดเชยให้ ผู้โดยสารอย่างไร
สรุป
แม้ BTS จะสร้างความขัดข้องให้คนส่วนใหญ่ของกรุงเทพ แต่ส่วนของบริษัททั้งกำไรสุทธิ และราคาหุ้นแทบไม่ได้รับผลกระทบ กลายเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนว่า BTS ผูกขาดตลาดอย่างไรแต่จะมีการพัฒนาอะไรให้ดีขึ้นไหม …. คนกรุงเทพยังคงหวังต่อไป หวังว่ารัฐบาลจะขยับมากำกับเรื่องคุณภาพชีวิตของเราบ้าง
ที่มา efinancethai บล. KGI
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา