ในอดีตค่ายเพลงเกาหลีมีแค่ Big 3 หรือ JYP, SM และ YG Entertainment แต่จากนี้ไปมันจะไม่เป็นอย่างนั้น เพราะความโด่งดังของ BTS ทำให้ Big Hit Entertainment มีมูลค่ากิจการเทียบเท่ายักษ์ใหญ่ทั้ง 3
ภาพรวมอุตสาหกรรมที่อาจกลายเป็น Big 4
เรียกได้ว่าความนิยมของวง BTS ศิลปินระดับเรือธงของค่าย Big Hit Entertainment นั้นพุ่งสูงจนฉุดไม่อยู่จริงๆ สังเกตจากการได้รับเชิญให้ขึ้นไปกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ รวมถึงได้ขึ้นปกนิตยสาร Time แสดงให้เห็นว่าวงนี้ไม่ได้อยู่แค่ในประเทศ แต่โด่งดังในระดับโลก
และเหตุนี้เองค่าย Big Hit Entertainment ที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2548 จึงเป็นที่สนใจของกลุ่มทุนต่างๆ ซึ่งล่าสุดก็มี STIC Investment บริษัทร่วมลงทุน และบริหารสินทรัพย์จากเกาหลีใต้ ตัดสินใจเข้าไปซื้อหุ้น 12% ของค่ายเพลงดังกล่าว คิดเป็นมูลค่าราว 1.04 แสนล้านวอน (ราว 3,000 ล้านบาท)
ขณะเดียวกันการลงทุนครั้งนี้หลายฝ่ายคาดว่าจะทำให้มูลค่ากิจการของ Big Hit Entertainment อยู่ที่ 8.7 แสนล้านวอน (ราว 25,000 ล้านบาท) ซึ่งมากกว่า YG Entertainment ที่ระดมทุนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ และมีมูลค่ากิจการราว 7 แสนล้านวอน (ราว 20,000 ล้านบาท)
แต่ตัวค่ายเพลงของวง BTS ยังตามหลังพี่ใหญ่ของวงการที่ทำตลาดนี้มานานอย่าง JYP Entertainment ที่มีมูลค่ากิจการ 1.2 ล้านล้านวอน (ราว 35,000 ล้านบาท) กับ SM Entertainment ที่มีมูลค่ากิจการ 1 ล้านล้านวอน (ราว 29,000 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตามก็เคยมีข่าวลือว่า Big Hit Entertainment จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้อยู่ ก็มีโอกาสที่บริษัทจะมีมูลค่ากิจการเกินกว่า 2 ล้านล้านวอน (ราว 57,000 ล้านล้านบาท) ซึ่งมากกว่าค่ายเพลงเกาหลีในตลาดทุกค่ายเลยทีเดียว
สรุป
ด้วยความที่วง BTS นั้นดังมาก แต่ในทางกลับกัน Big Hit Entertainment ก็มีสินทรัพย์ของบริษัทแค่วง BTS ถ้าเกิดวงนี้เกิดเหตุอะไรไม่ดีเหมือนวง KARA หรือ TVXQ มันก็จะสั่นสะเทือนธุรกิจของค่ายเพลง ตัวอย่างที่ชัดที่สุดก็คงไม่พ้น SM และ YG ในตอนนี้ที่วงความหวังกำลังประสบปัญหา จนทำให้มูลค่ากิจการนั้นลดลงอย่างต่อเนื่อง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา