บราเดอร์ มุ่งตั้งเป้าเป็นเบอร์ 1 สินค้ากลุ่มปริ้นเตอร์ทุกเซกเมนต์ หลังปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จในการกวาดกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น พร้อมเจาะกลุ่มตลาดเครื่องปริ้นท์อิงค์แท๊งค์ราคาต่ำกว่า 3,000 บาท ยกระดับบริการหลังการขาย ตั้งเป้าโตเพิ่ม 6%
ธีรวุธ ศุภพันธ์ุภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีที่ประสบความสำเร็จในแง่ของส่วนแบ่งการตลาดเครื่องปริ้นเตอร์หลากหลายเซกเมนต์ที่เพิ่มขึ้น จากกลุ่มลูกค้ากลุ่มเด็กวัยรุ่นอายุระหว่าง 25-35 ปี ที่เราใช้พรีเซนเตอร์ “PROXIE” ที่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง เป็นการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น และทำให้แบรนด์ดูทันสมัย
“จากข้อมูล GFK ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลการตลาดพบว่า ฐานกลุ่มลูกค้าช่วงอายุ 25-35 ปีสามารถสร้างยอดขายและสร้าง Brand awareness เพิ่มขึ้น 75% และในปีนี้ถึงเราจะไม่ได้ใช้พรีเซนเตอร์แล้ว แต่เราจะยังมีโปรแกรมที่รักษาฐานกลุ่มลูกค้านี้ไว้ เพราะเราเชื่อว่ากลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้มี brand royalty ที่ชื่นชอบสินค้า แบรนดิ้ง การบริการต่างๆ กับเราแล้ว”
สำหรับส่วนแบ่งการตลาดในปีที่ผ่านมา เทียบกับปี 2565 มีการเติบโตขึ้นในหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดย เครื่องพิมพ์เลเซอร์มัลติฟังก์ชั่นขาวดำ เพิ่มจาก 47.8% เป็น 57.1% เครื่องพิมพ์เลเซอร์ขาวดำ เพิ่มจาก 27.7% เป็น 32.6% และเครื่องพิมพ์เลเซอร์สี จาก 37.3% เป็น 46.4% สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีสัดส่วนลดลง ได้แก่ เครื่องพิมพ์เลเซอร์มัลติฟังก์ชั่นสี ลดลงจาก 51.5% เป็น 50.1% และเครื่องพิมพ์อิงค์แทงค์ จาก 23.4% เป็น 18.5%
ในปีนี้ ทางบราเดอร์มีแผนที่จะรุกตลาดกลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์แทงค์ ที่มีราคาต่ำกว่า 3,000 บาท โดยจะทำการสร้างแบรนด์แบบเชิงรุกให้มีการรับรู้มากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้เราแทบไม่ได้ทำการตลาด โดยเฉพาะไม่เน้นทำสงครามราคา ซึ่งเป็นความตั้งใจในการเทสตลาด ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่าบริษัทฯ สามารถรักษาส่วนแบ่งเรื่องของรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรายได้จากผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์กระดาษ 88% เครื่องพิมพ์ฉลาก 5% จักรเย็บผ้า 5% และที่เหลือ 2% เป็นลำโพง และเครื่องพิมพ์เสื้อ
“แผนในปีนี้เพิ่มเติม เราจะมุ่งเน้นกิจกรรมทางการตลาดในเชิงรุก โดยจะเพิ่มสัดส่วนไปยังกลุ่มตลาดองค์กร เพราะยังเป็นกลุ่มที่ยังมีโอกาสที่ยังเติบโดไปได้มาก และจะเน้นไปยังกลุ่ม B2B มากขึ้น ไปยังกลุ่มองค์กรและราชการ ขยายบริการด้านการขายแบบครบวงจร ทั้งบริการการเช่าซื้อ เช่ารายเดือน เพื่อเป็นทางเลือกให้กลุ่มลูกค้าองค์กรให้มีทางเลือกในการใช้บริการ รวมไปถึงการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน (Sustainability) ในการกำจัดวัสดุการพิมพ์ที่ใช้แล้วแบบรักษ์โลกตลอดปีต่อไป”
สำหรับการบริการหลังการขายของบราเดอร์ ด้าน รัสสิญากร ตัณฑวณิชย์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการลูกค้า เปิดเผยว่า เราได้มีช่องทางการให้บริการทั้ง Pre sales และ Post sales ที่ครบทุกด้าน การให้ข้อมูลผ่าน Call center, E-mail, Live chat และ Chatbot ผ่านทาง Website หรือ LINE OA Brother Thailand รวมทั้ศูนย์บริการทั้ง 4 แห่ง และ Authorized Service Center ทั่วไทย 77 จังหวัด เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ใช้สินค้าของบราเดอร์ได้เต็มอย่างประสิทธิภาพ และมีการประเมินความพึงพอใจ (NPS) ทุกครั้งหลังการให้บริการ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาปรับปรุง และพัฒนาบริการต่อไป
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเป็นผู้นำด้าน Chatbot โดยมีการใช้งาน 2 ตัว ได้แก่ น้องแคร์ (N’Care) ที่ให้บริการตอบคำถามทั้งก่อนและหลังการขาย และมิสเตอร์แคร์เออร์ (Mr.Carer) สำหรับศูนย์บริการแต่งตั้ง (Authorized Service Center) ในการตอบคำถามปัญหาเทคนิค กาารซ่อมบำรุง และการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยบริการเหล่านี้จะให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และยังมีบริการเสริม Brother Care Pack ที่ลูกค้าสามารถซื้อบริการเสริมต่างๆ เพิ่มเติมได้ตั้งแต่วันที่ซื้อเครื่องวันแรก จนถึงวันสุดท้ายที่อยู่ในระยะเวลารับประกัน เช่น การขยายระยะเวลารับประกัน การตรวจเช็กเครื่องและทำความสะอาด การซ่อมนอกสถานที่ การติดตั้งเครื่อง รวมถึงการให้บริการในรูปแบบต่างๆ ซึ่งสามารถปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้าได้ เพื่อเพิ่มความคุ้มค่า ป้องกันการเกิดปัญหา ทำให้ลูกค้าทำงานอย่างต่อเนื่องไม่สะดุด
อ้างอิง: บราเดอร์ รุกเจาะกลุ่มธุรกิจกำลังซื้อสูง ขยายฐานกลุ่ม Gen Z ดึง PROXIE หวังดึงยอดโตขึ้น 5%, Brother Thailand
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา