อังกฤษรับมือโควิดไม่ไหว ติดเชื้อวันละ 5 หมื่นกว่า สั่ง lockdown ประเทศรอบ 3

ปัจจุบันอังกฤษติดเชื้อโควิดแล้ว 2.7 ล้านคน เสียชีวิต 75,547 คน รักษาหาย 6,260 คน ล่าสุด บอริส จอห์สัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศ lockdown ประเทศเป็นรอบที่ 3 แล้วนับตั้งแต่โควิดระบาด หลังจาก NHS หรือระบบบริการสุขภาพแห่งชาติอังกฤษเตือนว่าอาจจะมีคนติดเชื้อจำนวนมหาศาลจากโควิดสายพันธุ์ใหม่ 

จอห์สันสั่งปิดโรงเรียนระดับประถมและมัธยมจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็สั่งปิดแบบเดียวกันนี้ในช่วงเดือนมีนาคม 2020 จอห์สันกล่าวว่าประเทศจะต้องเผชิญกับความทุกข์ยากไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่วัคซีนจะถูกแจกจ่าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์เตือนว่าโรงพยาบาลอาจจะเต็มในเร็ววันหากไม่มีมาตรการจำกัดใดๆ เกิดขึ้น 

รัฐบาลอังกฤษจึงขอให้ประชาชนอยู่ที่บ้านอีกครั้ง เนื่องจากโรงพยาบาลกำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักจากโควิดระบาดมากกว่าครั้งก่อนๆ และอีก 7 สัปดาห์ข้างหน้า ประชาชนจะไม่สามารถออกจากบ้านได้จนกว่าจะมีเหตุผลที่จำเป็น เช่น มีงานที่ต้องทำจริงๆ ไม่สามารถยกเลิกหรือเลื่อนได้ หรือการออกไปซื้อยา ซื้ออาหาร มาตรการเหล่านี้จะถูกนำมาพิจารณาใหม่ในช่วงครึ่งแรกของเดือนกุมภาพันธ์

นักศึกษาจะไม่สามารถกลับไปเรียนในมหาวิทยาลัยได้จนกว่าจะถึงกลางเดือนหน้า การสอบในระดับ GCSE (สอบในระดับมัธยมต้นปีที่ 3, 4) และการสอบระดับ A ในช่วงฤดูร้อนนี้จะถูกยกเลิกไปก่อน 

จอห์นสันกำลังเผชิญแรงกดดันจากกลุ่มบริษัทต่างๆ รวมทั้งผู้นำสหภาพแรงงานที่ต้องการให้รัฐบาลอังกฤษสนับสนุนทางการเงินหลังจากที่อังกฤษเพิ่งจะประกาศให้มีการ lockdown นับตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา เรื่องนี้ Adam Marshall ผู้อำนวยการหอการค้าไทยกล่าวว่า บริษัทต่างๆ อาจจะทำความเข้าใจได้ว่าทำไมจอห์นสันต้องมีข้อบังคับเช่นนี้ แต่ว่าก็อาจจะสร้างความงุนงง สับสน และผิดหวัง เพราะมันเป็นข้อบังคับที่ไม่มีการออกโครงการอะไรสนับสนุนประชาชนเลย

ด้าน Rishi Sunak รัฐมนตรีคลังอังกฤษ เคยมีมาตรการเยียวยาทางเศรษฐกิจและมาตรการที่ช่วยเหลือแรงงานเมื่อต้องถูกงานช่วงโควิดก็เพิ่งจะหมดไปเมื่อฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา ทั้งนี้แถลงการณ์ร่วมจากทีมหัวหน้าแพทย์ 4 คนระบุว่า พวกเขาไม่ค่อยมั่นใจว่าระบบบริการสุขภาพของอังกฤษจะสามารถควบคุมการติดเชื้อที่เพิ่มจำนวนสูงขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปได้อย่างไรโดยที่ไม่มีมาตรการใดมาช่วยจัดการความเสี่ยงภายใน 3 สัปดาห์ข้างหน้า ด้านจอห์น เอ็ดมุนด์ นักระบาดวิทยาคาดการณ์ว่าอังกฤษอาจจะมีคนเสียชีวิตจากโควิด-19 สูงขึ้นถึง 100,000 คน 

ปัจจุบันพบว่า ภายใน 1 วัน อังกฤษมีคนติดเชื้อรวม 58,784 คน และภายใน 28 วันมีคนเสียชีวิตแล้ว 407 คน ช่วงระหว่าง 2 มีนาคม ถึง 30 ธันวาคม 2020 มีคนเสียชีวิตรวม 74,326 คน 

จำนวนคนติดเชื้อโควิดในอังกฤษ
จำนวนคนติดเชื้อโควิดในอังกฤษ

บอริส จอห์นสันกล่าวขอโทษต่อผู้ปกครองทั้งหลายที่ต้องปิดโรงเรียน และบอกว่าได้พยายามทำทุกหนทางแล้วที่จะเปิดโรงเรียน นอกจากนี้เขายังบอกว่ายังมีความหวังอยู่สำหรับผู้ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นด่านหน้าทางการแพทย์และพนักงานที่ดูแลสังคม จะได้รับการฉีดวัคซีนโดสแรกในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งกระบวนการเหล่านี้จะปูทางไปสู่การผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ 

มาตรการใหม่ๆ ที่จอห์นสันได้ประกาศไปล่าสุด สืบเนื่องจากมีคนเข้าโรงพยาบาลเพราะติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้น 30% ภายใน 1 สัปดาห์ และถือว่าเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่านับตั้งแต่เดือนธันวาคม 

ร้านรวงต่างๆ จะถูกปิดหมด ไม่ว่าจะเป็นผับ ร้านอาหาร ยกเว้นให้ใช้บริการเดลิเวอรี่หรือการซื้ออาหารไปกินที่บ้านได้ แต่จอห์นสันห้ามไม่ให้ซื้อเครื่องดื่มแบบเอากลับบ้านได้เพราะกังวลว่าเชื้อโรคจะแพร่กระจายมากขึ้น การเดินทางจะยังถูกห้ามต่อไป ยกเว้นการเดินทางที่จำเป็น ทั้งนี้จะมีการออกเสียงในสภาเพื่อหารือมาตรการถัดไปในวันพุธที่จะถึงนี้ 

ด้านศูนย์ความมั่นคงทางชีวภาพร่วมก็ประกาศยกระดับคำเตือนโควิด-19 ให้เป็นระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเนื่องจากหน่วยบริการด้านสาธารณสุขกำลังเผชิญความเสี่ยงอย่างมาก ขณะเดียวกัน นิโคลา สเตอร์เจียน รัฐมนตรีลำดับที่ 1 ของสก็อตแลนด์ก็ประกาศ lockdown ประเทศ ให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเพื่อควบคุมโควิดระบาดเช่นกัน จะอนุญาตให้เดินทางด้วยเหตุผลที่จำเป็นเท่านั้น ส่วนการชอปปิ้งหรือการออกกำลังกายจะสามารถทำได้อย่างน้อยราวสิ้นเดือนมกราคม ส่วนโรงเรียนจะให้ปิดเฉพาะระดับอนุบาล   

สเตอร์เจียนระบุว่า สก็อตแลนด์ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับอังกฤษมา 4 สัปดาห์แล้ว มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมากขึ้น โรงเรียนในไอร์แลนด์เหนือก็ต้องปิดหลังจากที่มีการประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือถึงข้อจำกัดสำหรับโควิดใหม่นี้เช่นกัน

การติดเชื้อโควิดเพิ่มสูงขึ้น 50,000 กว่าราย ทำให้รัฐบาลต้องสั่ง lockdown
การติดเชื้อโควิดเพิ่มสูงขึ้น 50,000 กว่าราย ทำให้รัฐบาลต้องสั่ง lockdown

ที่มา – Financial Times, Coronavirus.data.gov.uk, JHU

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา