นายสโรจ เลาหศิริ ผู้อำนวยการด้านกลยุทธ์และความคิดสร้างสรรค์ และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท แรบบิทส์ เทลล์ จำกัด เปิดเผยว่า “นับได้ว่า ปี 2559 เป็นปีที่ประเทศไทยมีความตื่นตัวเรื่อง Digital เป็นอย่างมาก ในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจเอกชน ที่มีการนำเครื่องมือบนดิจิทัล ออนไลน์ หรือโซเชียล มาเป็นช่องทางสำคัญในการสื่อสารและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค ในขณะเดียวกัน ภาครัฐเองก็มีนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่ให้การสนับสนุนและผลักดันดิจิทัลในทุก Sector อย่างเต็มที่ ทางด้านเครือข่ายเอง การเข้ามาของ 4G, 3G, Fixed Broadband และ Wifi ถือเป็น Digital Infrastructure โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้กับประเทศ ซึ่งเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาชั้นดี ในการนำพาทุกอุตสาหกรรม ก้าวกระโดดสู่การเปลี่ยนผ่านแห่งยุค Digital Transformation อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น สังเกตได้จาก แม้แต่ในตลาดหรือร้านอาหารข้างทาง (Street Food) ก็ยังมีสัญญาณ Wifi ไว้ให้บริการลูกค้า เพราะตระหนักรู้แล้วว่า พลังของการ Share Like Comment ของผู้บริโภคมีมหาศาลขนาดไหน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ การให้บริการ 4G ของประเทศยังถือว่าอยู่ Stage เริ่มต้น ถึงแม้จะมีผู้ให้บริการ 4G มาแล้วกว่า 3 ปี แต่ต้องบอกว่าเข้าสู่ยุคที่ทุกคนตื่นตัวก็เมื่อครั้งที่การประมูลคลื่นครั้งล่าสุดเพิ่งจบลงเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ และผู้ประกอบการเองยังต้องอาศัยเวลาในการลงทุนพัฒนาด้าน Network 4G ให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น รวมถึง Handset ส่วนใหญ่ในตลาดที่ยังเป็นมือถือ 2G และ 3G อยู่ ฟากโอเปอร์เรเตอร์เองก็ปรับโหมดการแข่งขันสู่ DATA GAME กันอย่างเต็มที่ เพื่อเร่งดึงลูกค้าเข้าสู่ระบบ 4G ให้เร็วที่สุด ดังนั้น คาดว่าภายในปีหน้า 4G ถึงจะ Critical MASS หรือลงสู่ตลาด MASS ทั่วประเทศได้อย่างชัดเจน
วันนี้ แรบบิทส์ เทลล์ จึงมีมุมมองที่น่าสนใจว่า นับตั้งแต่วันนี้ แบรนด์ควรต้องเร่งปรับตัวอย่างไร เพื่อให้พร้อมต่อการแข่งขันทันที เมื่อวันที่ประเทศไทยเข้าสู่ยุค 4G สมบูรณ์แบบ ประกอบด้วย
1.Potential to create higher quality content
ต่อไปแบรนด์สามารถทำคอนเทนต์ให้มีคุณภาพดีขึ้น และลึกมากขึ้นกว่าเดิม ยกตัวอย่าง Gamification, Quality Video, HD Advertising, Long form Content ซึ่งเป็นไฟล์ขนาดใหญ่ คมชัดมากขึ้น ใส่ Heavy Graphic และ Interactive เข้าไปได้อีกเยอะมาก จะทำให้ Content มีมิติ และให้ประสบการณ์กับผู้บริโภคได้อย่างเต็มที่ หรือแม้กระทั่งแบรนด์สามารถทำ Real time streaming ได้อย่างมีคุณภาพยิ่งกว่าเดิม อาทิ การ LIVE ของแบรนด์, การ Broadcast งานแถลงข่าว เป็นต้น
2.Develop better owned assets
การโหลดข้อมูลที่เร็วขึ้นเป็นการปลดล็อกเรื่อง Timing ในการโหลด ในยุคที่ทุกแบรนด์ต้องมีเว็บไซต์ ในโมเม้นต์ที่เมื่อลูกค้า Search แล้วต้องเจอ เพราะใน Facebook อาจให้ข้อมูลได้ไม่ครบ หรือให้ประสบการณ์ที่ดี หรือทำ Interactive กับแบรนด์ไม่ได้ดีเท่าเว็บไซต์ ดังนั้น ปัจจุบันหากโหลดเว็บได้เร็วขึ้น ก็ยิ่งทำให้เว็บไซต์มีคุณภาพมากขึ้น ทำ Interactive ได้มากขึ้น พวก E-Commerce Site ที่อาศัยการทำธุรกรรมผ่านเว็บ ก็จะดีขึ้นตามไปด้วย ทำให้ตลาดเติบโตขึ้นด้วย
3.Create more relevancy content to consumers
เมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน มีความอดทนน้อยลง และคิดมากขึ้นก่อนจะใช้ 4G ผู้บริโภคจะมี DATA QUOTA ในใจ เพราะแม้ว่า 4G จะเร็วเทียบเท่า Wifi แต่คนจะมอง Wifi เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ คือ โหลดได้ไม่จำกัดปริมาณ แต่จะรู้สึกว่า 3G, 4G ต้องเสียเงินเพื่อโหลด ต้องซื้อแพกเกจ DATA แน่นอนว่าค่าบริการ 4G จะแพงกว่า3G คนจึงยิ่งหวงการใช้ 4G มากขึ้น จะไม่ใช่ความเร็ว 4G พร่ำเพรื่อ เพราะกลัว DATA หมดแล้ว ดังนั้น แบรนด์ต้องสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและเกี่ยวข้องมากพอที่คนจะยอมสละ 4G อันมีค่านี้ให้ สิ่งนั้นต้องถูกจริตหรือโดนใจผู้บริโภคจริงๆ
4.Mobile Optimized
เมื่อก่อน คนคุ้นเคยกับการใช้ Laptop ต่อเน็ตผ่าน Wifi เพื่อเข้าหน้าเว็บไซต์ เพราะบน Laptop มีสเปคเครื่องและการเชื่อมต่อที่เร็วกว่า สะดวกกว่า สามารถโชว์ลูกเล่นได้มากกว่า แต่ปัจจุบัน ด้วยเครือข่าย DATA ที่เร็วมากขึ้น ทำให้คนใช้โทรศัพท์มือถือเข้าเน็ตได้อย่างสะดวก ทุกที่ทุกเวลา และแนวโน้มของการเล่นอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือก็จะยิ่งมากขึ้นตาม ดังนั้น แบรนด์ต้องผลิตคอนเทนต์ที่รองรับมือถือเป็นข้อบังคับพื้นฐานที่จะขาดไม่ได้อีกต่อไป
“แรบบิทส์ เทลล์ ในฐานะดิจิทัล เอเจนซี่ สายพันธุ์ดิจิทัลแท้ เราเห็นภาพและเข้าใจเทรนด์นี้ จึงทำให้มี ดิจิทัลโซลูชั่นส์ เพื่อตอบรับกระแสดังกล่าวอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น UI & UX Design สำหรับ Mobile และในแง่คอนเทนต์ที่เปลี่ยนไป แรบบิทส์ เทลล์ ได้ลงทุนสร้างสตูดิโอ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการผลิต ทำให้สามารถออกแบบและสร้างสรรค์คอนเทนต์ดิจิทัลได้รวดเร็ว และล้ำสมัยยิ่งกว่า ซึ่งเราพร้อมทำงานร่วมกับทุกองค์กร และทุกแบรนด์ เพื่อตอบโจทย์การทำธุรกิจและสร้างสรรค์สังคมดิจิทัลไปด้วยกัน โดยวางเป้าหมายในอนาคต สู่การเป็นผู้ให้บริการด้านดิจิทัลโซลูชั่นแบบครบวงจรระดับแนวหน้าของประเทศ ตอบรับนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล ส่งเสริมการพัฒนาทางธุรกิจอย่างยั่งยืนบนรากฐานของดิจิทัล” นายสโรจ กล่าว
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา