ความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมากว่าร้อยปี แต่เมื่อ COVID-19 ระบาด ความต้องการนี้กลับลดลง ทำให้ BP หนึ่งในบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่จากสหราชอาณาจักร ออกมาฟันธงว่าความต้องการนี้พ้นจุดสูงสุดไปแล้ว
อุตสาหกรรมน้ำมันต้องปรับตัว
BP ได้เปิดเผยรายงานประจำปีที่มีเนื้อหาพิเศษเกี่ยวกับภาพรวมอุตสาหกรรมน้ำมันว่า ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอาจไม่กลับมา 100% หลังจากวิกฤต COVID-19 คลี่คลาย เพราะน้ำมันเชื้อเพลิงที่มาจากถ่านหินจะถูกทดแทนโดยพลังงานสะอาด ไม่ว่าจะเป็นลม, แสงอาทิตย์ หรือน้ำ
“ก่อนหน้านี้วิกฤต COVID-19 พลังงานสะอาดเริ่มถูกให้ความสำคัญมากขึ้น แต่เมื่อเกิด COVID-19 มันยิ่งถูกให้ความสำคัญมากขึ้นไปอีก ดังนั้นจึงเป็นการยากที่ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจะเติบโต และความต้องการนั้นมันคงถึงจุดสูงสุดไปแล้ว” Spencer Dale หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของ BP กล่าว
สำหรับตัวข้อมูลดังกล่าว BP ได้ตั้งสมมติฐานขึ้นมา 3 ขั้น คือหากทุกฝ่ายตื่นตัวเรื่องพลังงานสะอาดมากที่สุด โอกาสที่ความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงในปี 2050 จะลดลงถึง 80% รองลงมาเป็น 55% ในช่วงเวลาเดียวกัน ส่วนหากเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด ความต้องการนำมันเชื้อเพลิงจะอยู่ในระดับเดียวกับปี 2019 จนถึงปี 2030 เป็นอย่างน้อย
ก่อนหน้านี้ Bernard Looney ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ BP ยืนยันว่า บริษัทจะกลายเป็นองค์กร Net Zero ภายในปี 2050 ซึ่งหมายถึงองค์กรที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนใดๆ ออกมา ถือเป็นการเดินหน้าธุรกิจที่ค่อนข้างท้าทายของ BP เพราะมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนแทบทั้งหมด
สรุป
ปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐของประเทศต่างๆ รวมถึงองค์กรเอกชนเริ่มใส่ใจกับการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่การจะให้ธุรกิจน้ำมันเชื้อเพลิงลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลง 100% ก็คงเป็นการยาก แต่ BP ก็พร้อมเดินหน้าแผนนี้เต็มที่ เช่นการลงทุนในกลุ่มพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจไม่กระทบต่อความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลง
อ้างอิง // The Guardian
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา