เวลาพูดถึงสตาร์ทอัพ ก็มักนึกถึงบริษัทที่เล็ก คล่อง ปรับตัวได้เร็ว ขณะเดียวกันพอพูดถึงบริษัทที่เข้าตลาดหุ้น คนก็เริ่มมองเป็นองค์กรที่เป็นระบบระเบียบ ทำอะไรก็ไม่ว่องไวแบบแต่ก่อน เช่นนั้นแล้วสตาร์ทอัพควรเข้าตลาดหุ้นไหม? ซีอีโอ Box ว่า เข้าตลาดหุ้นแล้วดีกว่าเยอะ มาดูกัน
Aaron Levie เป็นซีอีโอของ Box อดีตสตาร์ทอัพดาวรุ่ง ให้บริการเก็บไฟล์ออนไลน์บนคลาวด์ (เหมือน Dropbox) บริษัทตัดสินใจไอพีโอเข้าตลาดหุ้นตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งจนถึงตอนนี้คู่แข่งอย่าง Dropbox ก็ยังไม่มีแผนเข้าตลาดหุ้น Levie บอกว่าการที่บริษัทตัดสินใจไอพีโอนั้น “เป็นเรื่องดีมากๆ”
ก่อนจะเดาว่าที่เข้าตลาดหุ้นเพื่อ exit ขายหุ้นราคาดี ก็อาจใช้ไม่ได้กับ Box เท่าไหร่ ราคาหุ้น Box นั้นค่อนข้างสวิงมาก วันแรกที่เข้าตลาดหุ้นราคาสูงถึง $24 แล้วก็ลงมาจนต่ำถึง $9 ส่วนตอนนี้ก็ค่อยๆ ปรับตัวขึ้น
Levie บอกว่าข้อดีมากของการเข้าตลาดหุ้น เป็นเรื่องผลิตภัณฑ์ของ Box ซึ่งเน้นขายบริการฝากไฟล์สำหรับลูกค้าระดับองค์กร ซึ่งทุกครั้งเขาจะถูกตั้งคำถามว่า “บริษัทจะไปรอดไหม” หรือ “จะมีบริการใดปิดตัวหรือเปล่า” นั่นคือสาเหตุว่าทำไมบริษัทแบบ IBM หรือ Google จึงดูดีกว่าในเกมนี้ เพราะลูกค้าเชื่อมั่นว่าอย่างน้อยก็คงไม่ชิงปิดตัวง่ายๆ ฉะนั้นหนทางที่ดีกว่าก็คือการเข้าตลาดหุ้น เปิดเผยสถานะบริษัทไปเลย ลูกค้าก็จะเชื่อมั่นมากขึ้น
ข้อดีถัดมาที่ Levie บอกคือการเข้าตลาดหุ้น ทำให้บริษัทตอนรายงานผลประกอบการทุก 3 เดือน นักลงทุนและนักวิเคราะห์ต่างจับจ้อง ฉะนั้นบริษัทต้องมีการดูแลเรื่องเงินที่รัดกุมขึ้น ซึ่งนั่นทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามมาด้วย
เหตุผลสุดท้ายที่เขาบอกนั่นคือ สตาร์ทอัพมักให้หุ้นกับพนักงานเพื่อสร้างแรงจูงใจ แต่สุดท้ายหุ้นก็ไม่มีความหมายหากไม่สามารถขายต่อออกไปได้ การเข้าตลาดหุ้นคือการสร้างความภักดีในองค์กร และเป็นการตอบแทนที่ยุติธรรมที่สุด เพราะราคาหุ้นก็จะเป็นผลจากการทำงานของพนักงานนั่นเอง
ที่มา: Business Insider
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา