ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผย ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนกรกฎาคม 2564 ลดลงทุกองค์ประกอบและเกือบทุกธุรกิจ ซึ่งเป็นผลจาก COVID-19 ที่ยืดเยื้อรุนแรง ความเข้มงวดของมาตรการควบคุม และราคาวัตถุดิบที่สูง
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนกรกฎาคม 2564 ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 41.4 จาก 46.5 ในเดือนก่อน ตามการปรับลดลงในทุกองค์ประกอบ และเกือบทุกธุรกิจ
การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ยืดเยื้อและรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ความต้องการจากตลาดในประเทศต่างกลับมาเป็นข้อจำกัดหลักสำหรับการดำเนินธุรกิจในเดือนนี้ ขณะที่ผู้ประกอบการยังมีความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการผลิตสูงจากทั้งราคาเหล็กในตลาดโลกที่อยู่ในระดับสูง และต้นทุนด้านสาธารณสุขที่สูงขึ้นตามมาตรการคุมโรคที่เข้มงวดขึ้น
- กลุ่มผลิตเหล็ก มีความเชื่อมั่นปรับลดลงต่อเนื่องมาอยู่ในระดับต่ำจากคำสั่งซื้อที่ชะลอลงตามราคาเหล็กที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการปรับลดลงมาก
- กลุ่มผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ มีความเชื่อมั่นปรับลดลงมากและอยู่ในระดับต่ำจากองค์ประกอบด้านต้นทุน เนื่องจากราคาวัตถุดิบ อาทิ เหล็ก อลูมิเนียมและพลาสติกยังอยู่ในระดับสูง สำหรับภาคที่มิใช่การผลิต
- ธุรกิจก่อสร้างและอสังหาฯ มีความเชื่อมั่นลดลงสู่ระดับต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ จากมาตรการ ควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19 ที่ปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง ประกอบกับความกังวลต่อสถานการณ์แพร่ระบาดที่ยืดเยื้อและรุนแรง ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอคำสั่งซื้อ
ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีฯ ปรับลดลงจากระดับ 49.6 มาอยู่ที่ 47.7 จากความเชื่อมั่นของธุรกิจในภาคที่มิใช่การผลิตที่ปรับลดลงเป็นสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มขนส่งผู้โดยสาร ที่ดัชนีฯ ปรับลดลงมาต่ำกว่าระดับ 50 อีกครั้ง หลังจากที่ยืนเหนือ 50 ได้ในเดือนก่อน
ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคการผลิตปรับลดลง มาต่ำกว่าระดับ 50 เป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ตามความเชื่อมั่นของกลุ่มผลิตเหล็กที่ปรับลดลงเป็นสำคัญ โดยเป็นการปรับลดลงในทุกองค์ประกอบ นำโดยคำสั่งซื้อจากทั้งในและต่างประเทศที่ชะลอลงตามราคาเหล็กที่อยู่ในระดับสูง
ดัชนีความเชื่อมั่นด้านสภาพคล่องทั้งในปัจจุบันและ 3 เดือนข้างหน้าปรับลดลงอีกครั้งและอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 สะท้อนว่าธุรกิจที่เผชิญกับภาวะสภาพคล่องตึงตัวมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นด้านต้นทุนทรงตัว อยู่ในระดับต่ำตามราคาปัจจัยการผลิตหลายรายการที่ยังอยู่ในระดับสูง
ที่มา – ธนาคารแห่งประเทศไทย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา