สรุปยุทธการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศยกระดับมาตรการจัดการกับ ‘บัญชีม้า’ ทั้งกวาดล้าง-ปิดปาก-กันเงินไหลออก หลังประชาชนคนไทยได้รับผลกระทบจากมิจฉาชีพหลอกโอนเข้าบัญชีอย่างต่อเนื่อง
ช่วงต้นของ การแถลงข่าว ธปท. อธิบายว่า เมื่อก่อนวิธีการของมิจฉาชีพมักจะเป็นลักษณะของ ‘แอปดูดเงิน’ ทำให้ ธปท. ได้กำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันความเสียหายของประชาชน อาทิ ห้ามส่ง SMS แนบ Link / 1 บัญชี 1 เครื่อง / สแกนหน้าก่อนโอนเงิน
แต่ในระยะหลังวิธีของมิจฉาชีพเปลี่ยนแปลงไป มาใช้วิธีสวมรอยทำให้ประชาชน ‘ถูกหลอกโอนเงินเอง’ มากขึ้น ธปท. จึงได้หันมาออกมาตรการรองรับอย่างเช่น ล็อกเงิน ปรับวงเงินสแกนหน้า เตือนก่อนโอนเงิน และเริ่มดำเนินการปราบปรามบัญชีม้า
โดยมาตรการ ‘ปราบปรามม้า’ ในช่วงก่อนหน้านี้ทำให้มิจฉาชีพไม่สามารถโอนเงินออกจากบัญชีม้าได้ แต่แม้ว่ากรณีนี้จะทำให้มิจฉาชีพกลุ่มแอปดูดเงินลดลง สิ่งนี้ก็ยังไม่ตอบโจทย์ประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพกลุ่มหลอกให้โอนเงินเอง
ดังนั้น ธปท. จึงได้คุยกับธนาคารพาณิชย์ทุกธนาคาร ตกลงกันอย่างเข้มงวดว่า ภายในสิ้นเดือนนี้ “จะไม่ให้มีเงินไหลเข้าไปในบัญชีเหล่านี้อีก” โดยเริ่มจากบัญชีม้าที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีแล้วก่อน
วิธีการของ ธปท. และธนาคารพาณิชย์ คือ จะทำให้ประชาชนคนทั่วไปไม่สามารถโอนเงินเข้าไปในบัญชีเหล่านี้ได้ หรือ “โอนแล้วเด้ง-โอนแล้วไม่สำเร็จ” นั่นเอง
นอกจากสิ่งนี้รายละเอียดของสิ่งที่ ธปท. จะทำมีอะไรอีกบ้าง Brand Inside สรุปมาให้แล้ว
มาตรการเร่งด่วน กวาดม้า-ปิดปากม้า-แจ้งเตือนตามหลัง
1) กวาดม้ามากขึ้น
ธปท. แบ่งระดับขั้นของ ‘บัญชีม้า’ ที่สามารถระบุได้ออกเป็นสีต่างๆ ดังนี้
- ม้าดำ = ปปง. ประกาศชื่อแล้ว
- ม้าเทาเข้ม = ผู้เสียหายแจ้งความแล้ว
- ม้าเทาอ่อน = ผู้เสียหายยังไม่แจ้งความ
- ม้าน้ำตาลเข้ม = ธนาคารมั่นใจพอจะแจ้งตำรวจ
- ม้าน้ำตาลอ่อน = ธนาคารสงสัย
โดยก่อนหน้านี้ไม่มี ‘ม้าน้ำตาล’ เพราะเกรงว่าจะกระทบกับคนที่ไม่ได้กระทำผิด แต่ว่าตอนนี้หลังการธนาคารมาศึกษาร่วมกันราว 6 เดือน เริ่มเห็นแพทเทิร์นบางอย่างของมิจฉาชีพ อาทิ บัญชีที่มักจะการโอนเงินไปบัญชีคริปโท ทำให้ธนาคารสามารถกำหนดชี้ตัวบัญชีม้าน้ำตาลได้ชัดเจนขึ้น
2) Action เข้มข้นมากขึ้น
ธปท. และธนาคารพาณิชย์จะร่วมกันกันเงินไหลเข้า กันเงินไหลออก และกันการเปิดบัญชีใหม่ของบัญชีม้า
- กันเงินไหลเข้า = ม้าดำ ม้าเทาเข้ม เริ่มแล้ว / ม้าเทาอ่อน ม้าน้ำตาลเข้ม ภายใน มี.ค.
- กันเงินไหลออก = ม้าดำ ม้าเทาเข้ม ม้าเทาอ่อน ทำแล้ว / ม้าน้ำตาลเข้ม ภายใน มี.ค.
- กันเปิดบัญชีใหม่ = ม้าดำ ม้าเทาเข้ม ม้าเทาอ่อน ทำแล้ / ม้าน้ำตาลเข้ม ภายใน มี.ค.
- ม้าน้ำตาลอ่อน ให้ดำเนินการตามนโยบายป้องกันความเสี่ยงของแต่ละธนาคาร
กรณีม้านิติ = ถ้าเป็นม้าสีดำที่ ปปง. ประกาศชื่อแล้วจะมีการกันเงินไหลออกแล้วเรียบร้อย แล้วภายในกุมภาพันธ์จะกันไม่ให้เปิดบัญชีใหม่ แล้วก็จะมีการตรวจเช็กรายชื่อกรรมการ ถ้ามีชื่อติดอยู่ในม้าสีไหนก็จะเปิดบัญชีใหม่ไม่ได้ หรือเปิดยากขึ้น หรือจำกัดการใช้งาน
นอกจากนั้น ธปท. ยังระบุว่า หลังจากลูกค้าโอนเงินไปบัญชีม้าไม่ผ่าน ทุกธนาคารจะมีการส่ง ‘ข้อความ’ แจ้งเตือนลูกค้า กรณีกำลังพยายามโอนเงินเข้าบัญชีต้องสงสัย เพื่อกระตุกเตือนใจลูกค้า หรือป้องกันกรณีมิจฉาชีพพยายามใช้บัญชีม้าอื่นๆ ให้ลูกค้าโอนอีก
สิ่งที่ ธปท. จะดำเนินการทำเพิ่มเติม คือ อยากให้ธนาคารแจ้งเตือนล่วงหน้าหรือหน่วงเวลาเอาไว้ เวลาลูกค้าเริ่มมีพฤติกรรมการโอนเงินปกติ เหมือนกับบัตรเครดิตที่จะแจ้งเตือนลูกค้าเวลาเกิดธุรกรรมแปลกไปด้วย
3) ขยายวงกว้างขึ้น
ขยายผล แชร์ข้อมูลของม้าดำ เทา และน้ำตาล ไปยังกลุ่มผู้ให้บริการ Digital Asset เพราะ 75% ของความเสียหายจากมิจฉาชีพจะไปออกที่คริปโทและติดตามได้ยาก ส่วนใหญ่มักจะไหลไปสู่คริปโทในประเทศ และไปสู่คริปโทนอกประเทศในที่สุด
สิ่งที่จะทำเพิ่มอีก คือ กวาดล้างม้านิติ ม้าคริปโท เข้มงวดการเปิดบัญชี และขยายผลไป Digital Asset กับ Digital Wallet ด้วย
แต่นอกจากธนาคารแล้ว ช่องทางเข้าถึงตัวเหยื่อ คือ สมาร์ทโฟน โซเชียลมีเดีย ข้อความ SMS ที่มีการแนบลิงก์ ทำให้ทุกภาคส่วนจะต้องช่วยกัน โดยมุมของ ธปท. คือ ทุกภาคส่วนจะต้องมีหน้าที่รับผิดชอบและจะต้องช่วยรับผิดชอบในกรณีที่ไม่ได้ทำหน้าที่ที่ต้องทำ
- ปีนี้ ‘คนไทยถูกมิจฉาชีพหลอก’ บ่อยขึ้น หลอกสำเร็จเร็วกว่าเดิม และโอกาสได้เงินคืนน้อยลง
- 2 ปี คนไทยโดนมิจฉาชีพหลอกแล้ว 5.7 แสนเคส เสียหายสะสม 6.5 หมื่นล้าน วันละ 80 ล้านบาท
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา