ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินมาเป็นระยะเวลาสักพักแล้ว เป้าหมายในการการผ่อนคลายทางการเงินของญี่ปุ่นคือ การพยายามทำให้อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นอยู่ที่ประมาณ 2% แต่หลังจากนี้อาจเกิดปัญหาใหญ่ตามมา
วิธีหนึ่งในมาตรการผ่อนคลายคือการซื้อ กองทุนหุ้น (ETF) ในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาทางธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ซื้อ ETF มูลค่า 833,000 ล้านเยน มากที่สุดในรอบ 2 ปี ซึ่งโดยเฉลี่ยแต่ละเดือนมีมูลค่าการซื้อประมาณ 400,000-600,000 ล้านเยน
ระเบิดเวลาลูกใหม่ของตลาดหุ้น
นักลงทุนบางส่วนเริ่มคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะเริ่มนโยบายทางการเงินแบบปกติ ซึ่งจะต้องมีการทยอยลดการซื้อ ETF และสินทรัพย์อื่นๆ และยังมีความกังวลว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะรีบยกเลิกนโยบายนี้อีกด้วยซ้ำ ทำให้ภาพรวมของนักลงทุนมีความกังวล
ETF ที่ทาง BoJ ได้ซื้อไว้ตั้งแต่ปี 2010 จนถึงปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 23 ล้านล้านเยน ถ้าเทียบกับมูลค่าตลาดของตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ถือว่ามากกว่า 3% ซึ่งมีขนาดมหาศาล
Kazuyuki Terao จาก Allianz Global Investors ให้มุมมองว่าถ้าหากดัชนียังลงไปเรื่อยๆ ปัญหาใหญ่จะเกิดกับธนาคารกลางญี่ปุ่นทันทีหลังจากเลิกนโยบาย เพราะว่าถ้าหากธนาคารกลางขาย ETF มูลค่ามหาศาลออกมา ยิ่งซ้ำเติมให้ตลาดตกลงหนักมากกว่าเดิม ทำให้ทุกคนเดือดร้อน
ผู้ว่า BoJ บอกยังซื้อตามปกติ
Haruhiko Kuroda ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นได้กล่าวว่า มีการหารือภายในกับทางทีมงานถึงเรื่องที่จะขายสินทรัพย์หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่นยกเลิกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินแล้ว
ส่วนในเรื่องความกังวลที่จะลดการซื้อ ETF ในตอนนี้ เขาได้บอกว่า ถ้าตราบใดอัตราเงินเฟ้อยังไม่ถึงเป้าหมายที่ 2% เขาจะยังไม่เลิกมาตรการนี้โดยเด็ดขาด
สอดคล้องกับมุมมองของทาง Tatsuya Oguchi จาก Franklin Templeton มองว่า นักลงทุนต้องรู้อยู่แล้วว่ายังไงธนาคารกลางจะต้องเลิกนโยบายนี้ไม่วันใดวันหนึ่ง ซึ่งเขามองว่าธนาคารกลางจะใช้นโยบายนี้ไปเรื่อยๆ อีก 2-3 ปีจนถึงช่วงโอลิมปิก 2020
สรุป
เรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญในอนาคต รวมไปถึงผู้ที่ลงทุนในกองทุนหุ้นญี่ปุ่นในประเทศไทย เพราะว่านักลงทุนให้ความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นญี่ปุ่นลดลง จะเห็นได้จากนักลงทุนต่างชาติได้ทยอยขายหุ้นญี่ปุ่นออกมาเรื่อยๆ ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดจากความไม่มั่นใจในนโยบายของธนาคารกลางหลังจากนี้ ถึงแม้ว่าทางผู้ว่าการธนาคารกลางจะออกมาบอกด้วยตัวเองก็ตาม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา