ผลวิจัยจากอเมริกา: คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ไม่ใช่ “คนฉลาด” แต่คือคนที่ “บ้านรวย”

ผลวิจัยเผย คนไม่ฉลาด-แต่บ้านรวย ประสบความสำเร็จได้ง่ายกว่า คนฉลาด-แต่บ้านจน ?

Photo: Shutterstock

ไม่ฉลาด-แต่บ้านรวย ประสบความสำเร็จง่ายกว่า ฉลาด-แต่บ้านจน

ผลวิจัยเรื่อง “Born to Win, Schooled to Lose” ของ Georgetown Center on Education and the Workforce (CEW) ที่ทำการศึกษาปัจจัยชี้วัดในการประสบความสำเร็จของคนในวัยผู้ใหญ่ พบว่า การจะประสบความสำเร็จในสหรัฐอเมริกาได้ คนที่มีพื้นฐานทางบ้านรวยได้เปรียบกว่าคนฉลาด (หมายความว่า เรียนเก่งในห้องเรียน ทำคะแนนสอบได้สูง)

ทีมวิจัยอธิบายการเก็บข้อมูล โดยย้อนลงไปดูประวัติการศึกษา รายได้ สถานะทางสังคม-เศรษฐกิจของครอบครัวตั้งแต่วัยอนุบาลจนถึงวัยผู้ใหญ่ เพื่อดูว่ามีใครที่ประสบความสำเร็จในการทำงาน ส่วนคะแนนที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเพื่อวิจัยในครั้งนี้คือวิชาคณิตศาสตร์

  • ผลการวิจัยพบว่า คนที่มาจากครอบครัวที่มีฐานะต่ำที่สุด 25% (บ้านจน) แต่มีผลการสอบสูงที่สุด 25% บน (ฉลาด) มีเพียงแค่ 31% เท่านั้น ที่ได้เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย และเมื่อจบออกมาอายุประมาณ 25 ปี มีงานทำที่ดีโดยมีเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 35,000 ดอลลาร์ต่อปี (1.1 ล้านบาทต่อปี ตกเดือนละประมาณ 92,000 บาท) ส่วนเมื่ออายุ 35 ปี มีเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 45,000 ดอลลาร์ต่อปี (1.4 ล้านต่อปี ตกเดือนละประมาณ 117,000 บาท)
  • ส่วนคนที่มาจากครอบครัวที่มีฐานะสูงที่สุด 25% (บ้านรวย) แต่มีผลการสอบต่ำที่สุด 25% ล่าง (ไม่ฉลาด) มีจำนวนมากถึง 71% ที่ได้เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย และเมื่อจบออกมาทำงานก็ได้เงินในอัตราเดียวกันกับคนบ้านจน-แต่ไม่รวยจำนวน 31% ด้านบน
Photo: Shutterstock

นอกจากนั้น งานวิจัยนี้ยังพบอีกว่า คนฉลาด-แต่บ้านจน เมื่ออายุ 25 ปี สามารถเลื่อนชั้นทางเศรษฐกิจ-สังคมได้ประมาณ 76% ส่วนคนไม่ฉลาด-แต่บ้านรวย เมื่ออายุ 25 ปี สามารถรักษาสถานะทางเศรษฐกิจ-สังคมไว้ได้มากถึง 91%

ผลวิจัยชิ้นนี้พบด้วยว่า ในปี 2016 ครอบครัวที่มีความมั่งคั่งใช้จ่ายเงินกับกิจกรรมของเด็กไปกว่า 8,600 ดอลลาร์ (ประมาณ 272,000 บาท) ในขณะที่ครอบครัวที่มีรายได้ต่ำใช้จ่ายเงินกับกิจกรรมของเด็กเพียง 1,700 ดอลลาร์ (ประมาณ 54,000 บาท) เท่านั้น

ที่มา – สรุปงานวิจัย Born to Win, Schooled to Lose, CNBC

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา