วิกฤต “ไข่มุก” ใส่ชานมในสหรัฐฯ ขาดแคลน: ถ้าไม่มีไข่มุก ก็ไม่มีใครอยากซื้อชานมดื่ม

โควิด-19 สร้างวิกฤตชานมไข่มุก เมื่อไข่มุกขาดแคลนในประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะมันสำปะหลังที่เป็นวัตถุดิบหลักขาดแคลนหนัก เพราะต้องนำเข้าจากประเทศในแถบเอเชียเท่านั้น ร้านชาไข่มุกที่ไม่มีไข่มุก ก็เหมือนโชว์รูมรถ ที่ไม่มีรถเลยสักคัน

ก่อนหน้านี้ Brand Inside เคยนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการขาดแคลนสินค้าชนิดต่างๆ ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มาแล้วหลายครั้ง เริ่มตั้งแต่ช่วงที่โควิด-19 เริ่มระบาดใหม่ๆ ก็เกิดปัญหากระดาษชำระขาดแคลน เพราะความตื่นตัวในการซื้อสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความสะอาด หรือก่อนหน้านี้ไม่นานชิปเซ็ตที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของโทรศัพท์มือถือ ทีวี เครื่องเล่นเกมคอนโซล รวมถึงรถยนต์ ก็ขาดแคลนอย่างหนักเช่นเดียวกัน เพราะโรงงานหลายแห่งต้องปิดตัวลงจนโรงงานที่เหลืออยู่ไม่สามารถผลิตชิปเซ็ตให้เพียงพอกับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีแค่ปัญหาการขาดแคลนกระดาษชำระ และชิปเซ็ตเท่านั้น ที่เป็นปัญหาใหญ่กระทบกับการใช้ชีวิตของคนทั่วไป แต่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับปัญหา “ไข่มุก” ที่ใส่ในชานมขาดแคลนอย่างหนัก ร้านขายชานมไข่มุกบางแห่งถึงกับบอกว่า “ร้านชานมไข่มุกที่ไม่มีไข่มุก ก็เหมือนโชว์รูมรถ ที่ไม่มีรถจอดอยู่เลยสักคัน”

ทำไม “ไข่มุก” จึงขาดแคลน

สาเหตุที่ ไข่มุก ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของชานมไข่มุกขาดแคลน เป็นเพราะวัตถุดิบที่ใช้ทำตัวไข่มุก ต้องนำเข้ามาจากประเทศในทวีปเอเชียเท่านั้น

วัตถุดิบที่ว่านี้ไม่ใช่ของหายากในมุมมองของคนเอเชีย แต่เป็นกลายเป็นของหายากสำหรับคนสหรัฐอเมริกา นั่นคือ มันสำปะหลัง และแป้งมันสำปะหลังนั่นเอง ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในแหล่งที่มาของมันสำปะหลัง เช่นเดียวกันกับประเทศอื่นๆ ในทวีปเอเชีย

แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การขนส่งสินค้าทางเรือมีความล่าช้ากว่าปกติ โดยเฉพาะท่าเรือใน San Francisco ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่กำลังเผชิญกับปัญหาคิวของเรือที่ต้องการเข้าเทียบท่าสะสมสูงสุด 40 ลำ พร้อมๆ กันในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนสถานการณ์โควิด-19 จะระบาด เรือที่ต้องการเข้าเทียบท่าแทบจะไม่ต้องรอคิวเลย

การที่เรือขนส่งสินค้าต้องเข้าคิวที่ท่าเรือ นั่นหมายความว่าระยะเวลาที่ใช้สำหรับการขนสินค้าขึ้น-ลงเรือ จะเพิ่มขึ้นอีก โดยเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่อาจต้องใช้เวลานานนับสัปดาห์ เพื่อขนสินค้าออกจากเรือ ในขณะที่เรือลำอื่นๆ ที่ไม่สามารถเข้ามาที่ท่าเรือได้ ก็ต้องแล่นรอที่รอบๆ ท่าเรือ

ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ไข่มุก ขาดแคลนมานานนับเดือนแล้ว บริษัทที่ทำหน้าที่จัดหาไข่มุกถึงกับบอกว่า ไข่มุกคงขาดแคลนต่อไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายนเป็นอย่างน้อย

ถ้าไม่มีใครมุก ก็ไม่มีลูกค้าซื้อชานมดื่ม

การขาดแคลนไข่มุกนี้ เป็นปัญหาใหญ่สร้างความน่ากังวลให้กับร้านชานมไข่มุกในประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างมาก จนร้านชานมไข่มกร้านหนึ่งถึงกับบอกว่า “ถ้าไม่มีไข่มุก ลูกค้าก็จะไม่ดื่มชานมไปด้วย ลูกค้ามาที่ร้านก็เพราะต้องการไข่มุก”

สำหรับความนิยมในการดื่มชานมไข่มุกของคนสหรัฐอเมริกา ส่วนหนึ่งเกิดจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ความบันเทิงในชีวิตของคนสหรัฐอเมริกาหมดลง ไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ การดื่มชานมไข่มุกจึงกลายเป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่หาได้ในชีวิตประจำวัน

วัตถุดิบอื่นก็ขาดแคลนเช่นกัน

ความจริงแล้วปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบสำคัญไม่ได้เกิดขึ้นกับไข่มุกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะในช่วงเวลาเดียวกันนี้ก็เกิดปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบสำคัญกับร้านกาแฟชื่อดังอย่าง Starbucks เช่นเดียวกัน

โดย Starbucks ในประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนนมข้าวโอ๊ต ไซรัป รวมถึงแก้วน้ำที่ใช้สำหรับใส่เครื่องดื่มเช่นกัน

ที่มา – Business Insider, Nytimes, Fastcompany

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา