ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มแบรนด์รถยนต์หรูคือผู้บุกเบิกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และ BMW ก็คือหนึ่งในนั้น เพราะทำตลาดมานานจนล่าสุดมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Plug-in Hybrid สะสมกว่า 5 แสนคันแล้ว
Plug-in Hybrid และการก้าวสู่รถยนต์ไฟฟ้า
อุตสาหกรรมรถยนต์ก่อนหน้านี้แทบไม่ได้มองเรื่องการใช้พลังงานไฟฟ้ามาขับเคลื่อน และถึงจะถูกติดตั้งเข้ามาก็มักชูจุดเด่นเรื่องการประหยัดน้ำมัน ไม่ได้เน้นที่สมรรถนะ แต่ปัจจุบันการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ากำลังจะกลายเป็นเรื่องที่ค่ายผู้ผลิตรถยนต์มองข้ามไม่ได้ และใครสามารถทำให้ติดตลาดได้ก่อนก็มีโอกาสชนะในระยะยาว
BMW คือหนึ่งในแบรนด์ที่ปูพรมทำตลาดรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามาช่วยขับเคลื่อนมานาน ไล่ตั้งแต่เครื่องยนต์แบบ Hybrid จนถึงปัจจุบันที่ Plug-in Hybird และเป็นรถแบรนด์ยุโรปแรกๆ ที่กล้าทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าล้วนในรุ่น i3 ด้วย เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ไม่แปลกที่ BMW จะกลายเป็นเบอร์ต้นๆ ในเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า
ล่าสุดมีข้อมูลว่า กลุ่ม BMW ที่ประกอบด้วยแบรนด์ BMW, MINI และ Rolls-Royce จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า Plug-in Hybrid สะสมไปแล้วกว่า 5 แสนคันทั่วโลก โดยมาจากประเทศเยอรมนีถึง 60,000 คัน ถือเป็นกลุ่มแบรนด์รถยนต์ที่จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า Plug-in Hybrid มากที่สุดในเยอรมนีตั้งแต่ปี 2559 ถึงปัจจุบัน
ถึงตอนนี้ BMW ทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแบบต่างๆ ทั้งหมด 12 รุ่น และเป้าหมายถัดไปคือทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า Plug-in Hybrid ให้ได้ 1 ล้านคันภายในสิ้นปี 2564 หรือเติบโตเท่าตัวจากปัจจุบัน นอกจากนี้ในระยะยาวยังตั้งเป้าจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเป็นครึ่งหนึ่งของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดของกลุ่มภายในปี 2573 ด้วย
สรุป
รถยนต์ไฟฟ้าเป้นเรื่องที่ทุกแบรนด์ต้องไป และถ้าใครช้าย่อมตกขบวนอย่างรวดเร็วแน่นอน ดังนั้นการที่ BMW เดินหน้าทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามาตั้งแต่แรกน่าจะเป็นเรื่องถูกต้อง เพราะถ้าเทียบกับแบรนด์หรูอื่นๆ ก็ต้องบอกว่าสูสีกันไม่น้อย ส่วนถ้าเทียบกับแบรนด์ตลาดรองๆ แล้วล่ะก็ ค่อนข้างทิ้งห่างไกลเลยทีเดียว
อ้างอิง // Inside EV
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา