ตลาดมอเตอร์ไซต์ขนาดใหญ่ หรือบิ๊กไบค์ (ที่มีเครื่องยนต์มากกว่า 250 ซีซี) ต่างก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่มียอดจดทะเบียนในไตรมาส 3 ของปีนี้ลดลงถึง 40% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว อันเนื่องมาจากการชะลอการซื้อบิ๊กไบค์ที่มองว่าเป็นสินค้าในราคาค่อนข้างสูง และสิ้นเปลือง ส่งผลทำให้หลายๆ แบรนด์ต่างเปลี่ยนกลยุทธ์ในการทำการตลาดในช่วงนี้
เศรษฐิพงศ์ อนุตรโสตถิ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายแบรนด์ระดับภูมิภาคและฝ่ายขายประเทศไทย บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผู้นำเข้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เปิดเผยแนวทางการทำการตลาด บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในไทยหลังจากนี้อย่างน่าสนใจต่อการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์การตลาดจักรยานยนต์ขนาดใหญ่
“ช่วงการระบาดของ โควิด-19 ส่งผลทำให้ยอดจดทะเบียนภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด มีผลกระทบบ้าง เราเลยจะต้องปรับกลยุทธ์การทำการตลาดใหม่ของกลุ่มมอเตอร์ไซค์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และรักษากลุ่มลูกค้าเก่าที่เคยซื้อไป หรือกลุ่มที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์ให้กลับมาเหมือนกลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันอีกครั้ง”
งดงานใหญ่ เจาะงานเฉพาะกลุ่ม จัดทริปแคมปิ้ง
ปีนี้ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด มุ่งให้ความสำคัญกับการจัดงานที่ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากยิ่งขึ้น อย่างงาน “Pure & Crafted Space Bangkok” ที่ Warehouse 30 ซอยเจริญกรุง 30 ต่อเนื่องยาวถึงเกือบ 3 เดือน สถานที่นี้จะเป็นที่รวมตัวของคนที่ชื่นชอบรถแนว heritage หรือคลาสสิค ให้มาพบปะพูดคุย โดยมีพาร์ทเนอร์มาร่วมงาน ทั้ง Marshalls ร้านแผ่นเสียงหายาก ร้าน Pronto กับแฟชั่นสุดชิค Smiths Vintage Club รถรุ่นหายากมาให้ได้ชมอย่างใกล้ชิด รวมถึงหมวกกันน็อคสุดเก๋จาก Ruby Helmets และสินค้าไลฟ์สไตล์อื่นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ จะทำให้ผู้เข้าร่วมงานนี้ได้รับกลิ่นอายของ Pure & Crafted Festival ในกรุงเบอร์ลิน
เช่นเดียวกับสายลุย ที่เป็นลูกค้าแนวแอดเวนเจอร์ ก็สามารถนำรถแนวทัวร์ริ่งอย่าง BMW 1250 GS ไปร่วมทริปเอ็กซ์คลูซีฟ “BMW Motorrad GS Glamping Experience” ซึ่งจัดต่อเนื่องทุกวันศุกร์ – อาทิตย์ ตลอด 16 สัปดาห์ ณ อาสคาญ่า บูติก รีสอร์ท สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี กิจกรรมต่างๆ ทั้งแคมปิ้ง ฝึกฝนขับขี่มอเตอร์ไซค์แบบบนถนนและทางวิบากตัวต่อตัวกับครูผู้ฝึกสอนมืออาชีพจาก Enduro Park Thailand ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ทาง ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด สนับสนุนค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่ง ทำให้ลูกค้าเข้าร่วมกิจกรรมได้ง่ายขึ้น
“การเปลี่ยนจากอีเวนท์ใหญ่มาเป็นกิจกรรมที่ลูกค้าเข้าร่วมได้ง่ายขึ้น ทำให้ลูกค้าเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายขึ้น เหมือนเป็น loyalty program ทำให้ลูกค้ารู้สึกดีกับแบรนด์ และยังเปิดโอกาสให้ลูกค้ารายเดิมๆ ได้กลับมาร่วมพบปะ พูดคุย และรักษากลุ่มลูกค้าต่อไปได้”
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา