หลังจากประสบปัญหาเรื่องยอดขายผ่านปัจจัยเรื่องการเมือง และเศรษฐกิจโลกที่ไม่นิ่ง ทำให้ที่สุดแล้ว BMW ต้องหากลยุทธ์ใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งล่าสุดมันคือการจับมือกับผู้ผลิตรถยนต์จากจีนเพื่อผลิตแบรนด์ MINI ที่นั้น
เดินเกมรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมให้จีนเป็นตัวช่วย
ก่อนหน้านี้ Brand Inside ได้เคยนำเสนอเกี่ยวกับกลยุทธ์ใหม่ๆ ของ BMW กับการลดการซอยรุ่นย่อย พร้อมกับติดตั้งระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในรถยนต์รุ่นต่างๆ ให้มากขึ้น แต่ล่าสุดมันก็มีกลยุทธ์ใหม่ออกมาเพื่อตอบโจทย์ตลาดรถยนต์โลกที่เติบโตลำบาก และนั่นคือการขึ้นไลน์ผลิตแบรนด์ MINI ในประเทศจีน
สำหรับการผลิต MINI ในจีนนั้น BMW ได้ตั้งกิจการร่วมค้า หรือ Joint Venture กับยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์จากจีนอย่าง Great Wall Motor โดยทั้งสองบริษัทจะถือหุ้นคนละครึ่งเพื่อตั้งโรงงานมูลค่ากว่า 5,100 ล้านหยวน (ราว 24,000 ล้านบาท) มีกำลังการผลิตสูงสุด 1.6 แสนคัน/ปี ในมณฑลเจียงซูที่อยู่ในตอนกลางของจีน
อย่างไรก็ตามไม่ใช่ MINI ทุกรุ่นจะเข้ามาผลิตในประเทศจีนทั้งหมด เพราะ BMW จะเริ่มผลิตในรุ่น Electric MINI หรือ MINI ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าก่อน โดยรถยนต์รุ่นนี้จะเริ่มผลิตตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป หลังจากเตรียมขึ้นไลน์ผลิตในโรงงานที่อังกฤษภายในสิ้นปี 2562
ขณะเดียวกัน BMW ก็เตรียมร่วมมือกับ Great Wall Motor เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่างๆ ในประเทศจีนเช่นเดียวกัน เพราะที่นั่นมีการสนับสนุนเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มที่ รวมถึงแก้ปัญหาเรื่อง Trade War ในการส่งรถยนต์รุ่นต่างๆ ไปจำหน่ายในต่างประเทศด้วย
ส่วนทาง Great Wall Motor นั้นปัจจุบันเป็นผู้ผลิตรถยนต์ 10 อันดับแรกของจีน ก่อตั้งเมื่อปี 2527 เน้นผลิตรถยนต์แบรนด์ตัวเอง มากกว่าเป็นพันธมิตรกับแบรนด์รถยนต์จากต่างประเทศเพื่อนำเข้า หรือผลิตเพื่อขายในจีน โดยปี 2561 สามารถจำหน่ายรถยนต์ได้ 1.06 ล้านคัน มียอดขาย 99,200 ล้านหยวน (ราว 4.69 แสนล้านบาท)
สรุป
ช่วงนี้ BMW หนักจริงๆ เพราะยอดขายปีล่าสุดก็ไม่น่าเป็นที่พอใจนัก ทำให้การส่งกลยุทธ์ใหม่ๆ ออกมาเพื่อเดินหน้ากลับมาเติบโตอย่างยั่งยืนอีกครั้งก็จำเป็น ยิ่งการร่วมมือกับยักษ์ใหญ่จากจีนด้วยแล้ว จึงเห็นว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์โลกนั้นจะคึกคักกว่าเดิมแน่นอน
อ้างอิง // Nikkei Asian Review
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา