BMW ยอมรับ Plug-in Hybrid ยังต้องสื่อสารอีกเยอะ และรถเครื่องดีเซลยังสำคัญในตลาดไทย

EV (Electric Vehicle) หรือรถยนต์ไฟฟ้า คือเป้าหมายที่ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ต้องการไป แต่เมื่อกลับมามองที่ตลาดไทย ด้วยต้นทุนเทคโนโลยีที่สูง และการสนับสนุนไม่เอื้อเท่าไร ทำให้เรายังไม่สามารถก้าวพ้นเครื่องสันดาปได้เร็วๆ นี้

BMW i8 // ภาพจาก BMW

โรงงานแบตเตอรี่ในประเทศคืออีกตัวแปร

การจะทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นที่นิยมในประเทศไทยได้เร็วขึ้น นอกจากการสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ กับค่ายผู้ผลิตรถยนต์ การให้สิทธิ์พิเศษกับบริษัทเอกชนผู้ผลิตแบตเตอรี่ที่เป็นอีกหัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า ก็เป็นอีกเรื่องที่จำเป็น เพราะถ้ายังต้องนำเข้าแบตเตอรี่จากต่างประเทศ ต้นทุนก็ยังสูงอยู่ดี

ลาร์ส นีลเซ่น ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด BMW ประเทศไทย ยอมรับว่า ถึงไทย และมาเลเซียจะเป็นประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงไปใช้รถยนต์แบบ Plug-in Hybrid ค่อนข้างเร็วเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคนี้ แต่หากต้องการเปลี่ยนเร็วกว่านี้การมีภาครัฐเข้ามาสนับสนุนเรื่องต่างๆ นอกจาก BOI สำหรับผู้ผลิตรถยนต์ก็จะดีกว่า

ลาร์ส นีลเซ่น ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด BMW ประเทศไทย

“การเกิดบริษัทผลิตแบตเตอรี่ในระดับท้องถิ่นก็เป็นอีกเรื่องที่จำเป็น เพราะมันทำให้การเปลี่ยนไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าทำได้เร็วขึ้น และเมื่อตลาดไทยค่อนข้างมีโอกาสเติบโตสูงในตัว Plug-in Hybrid ก็ทำให้ BMW วางแผนเรื่องทำตลาดรถยนต์แบบนี้อยู่ตลอด แต่ก็ต้องบอกว่าเครื่องดีเซลก็ยังสำคัญ ผ่านจุดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมัน และความทนทาน”

ส่ง Plug-in Hybrid 9 รุ่น-รอตั้งสถานีชาร์จ

สำหรับตัว BMW ปัจจุบันทำตลาดรถยนต์ Plug-in Hybrid ในประเทศไทยทั้งหมด 9 รุ่น (ประกอบในไทย 8 รุ่น) ราคาเริ่มต้นราว 2 ล้านบาทกับ Series 3 ไล่จนไปสูงสุดที่ 12 ล้านบาทกับ i8 ทำให้ครอบคลุมทุกระดับความต้องการของผู้บริโภค นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างหารือการติดตั้งสถานีชาร์จ ChargeNow ตามสถานที่ต่างๆ

“ถ้าถามว่าเมื่อไร BMW จะขยายสถานีชาร์จไฟตามห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่ต่างๆ มากขึ้น เหมือนกับทางคู่แข่งบ้าง ต้องตอบว่า ChargeNow ของเราไม่ได้เป็นจุดชาร์จที่ให้แค่รถยนต์ BMW ชาร์จเท่านั้น เพราะแบรนด์ไหนก็ชาร์จได้ ดังนั้นมันต้องหารือกับหลายฝ่าย และคงต้องรออีกสักระยะ เหมือนกับการสื่อสารตัว Plug-in Hybrid ให้กับลูกค้าที่ยังไม่เข้าใจอยู่จำนวนหนึ่ง”

X3 กับ SUV ที่ช่วยต่อยอดความสำเร็จปีนี้

ด้วยปีนี้ BMW ประเทศไทยค่อนข้างประสบความสำเร็จในแง่ยอดขาย เพราะระหว่างเดือนม.ค.-ต.ค. ได้ส่งมอบรถยนต์แบรนด์ BMW และ Mini ได้รวม 8,344 คัน ซึ่งมากกว่ายอดขายทั้งปีของปี 2559 ประกอบกับเทรนด์ผู้บริโภคเริ่มชื่นชอบรถยนต SUV มากขึ้น จึงนำรุ่น X3 เข้ามาทำตลาด ภายใต้ราคา 3.69 ล้านบาท

All-new BMW X3

สรุป

การจะหลุดพ้นเครื่องยนต์สันดาปของประเทศไทยคงต้องซักระยะหนึ่งจริงๆ เพราะถ้าต้นทุนรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะเรื่องแบตเตอรี่ยังต้องนำเข้าอยู่ ก็เท่ากับราคามันสูงแน่ๆ แต่ก็ยังมีสัญญาณดีที่ภาครัฐ เช่น BOI เข้ามาให้สิทธิ์พิเศษในการลงทุนเรื่องนี้ และถ้าค่ายรถทุกรายหันมาจริงจังเรื่องนี้ในตลาดไทยมากขึ้น โอกาสที่เราจะข้ามพ้นเครื่องยนต์สันดาปก็คงดีขึ้น

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา