พายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด
ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ความคืบหน้าการนำ บมจ.บลูบิค กรุ๊ป เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) หลังจากยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 25 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.00 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ ปัจจุบันสำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบไฟลิ่งแล้ว โดยภายหลังได้รับอนุมัติให้เสนอขายหุ้น IPO และแบบ Filing มีผลใช้บังคับ จะกำหนดวันที่เสนอขายหุ้น IPO และคาดว่าจะนำ บมจ.บลูบิค กรุ๊ป เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ภายในปีนี้
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2561 – 2563 มีอัตราการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งกำไรและรายได้จาก การขายและให้บริการ โดยมีกำไรสุทธิคิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 51.81% ส่วนรายได้จากการขายและให้บริการ อยู่ที่ 132.76 ล้านบาท 184.94 ล้านบาท และ 200.53 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 22.90% ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2564 มีรายได้จากการขายและบริการ 49.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากความต้องการทรานส์ฟอร์มองค์กรเพื่อเข้าสู่ดิจิทัลของลูกค้า อีกทั้งบริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจในการเป็นที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการเพิ่มขึ้น จึงทำให้มีกำไรสุทธิ 12.34 ล้านบาท หรือคิดเป็น 24.78% ของรายได้จากการขายและให้บริการ ซึ่งเติบโตขึ้นจากอัตรากำไรสุทธิที่ 22.06% ของปี 2563
พชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK บอกว่า บลูบิคมี 5 บริการหลัก ได้แก่
- บริการให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการ (Management Consulting)โดยทำหน้าที่ค้นหาปัจจัยความสำเร็จทางธุรกิจให้แก่ลูกค้า กำหนดทิศทางกลยุทธ์ด้านต่างๆ วิเคราะห์ผลกระทบและโอกาสเชิงเศรษฐศาสตร์จากการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้กับธุรกิจ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและเติบโตอย่างก้าวกระโดด (Exponential Growth)
- บริการที่ปรึกษาการบริหารจัดการโครงการเชิงยุทธศาสตร์(Strategic PMO) โดยทำหน้าที่บริหารโครงการขนาดใหญ่ ที่มีความซับซ้อนสูงให้กับองค์กรขนาดใหญ่ และเข้าไปวางโครงสร้างระบบไอทีภายในองค์กร
- บริการพัฒนาระบบดิจิทัลและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี(Digital Excellence and Delivery) โดยทำหน้าที่ ให้คำปรึกษาเชิงลึกด้านดิจิทัลครบวงจรและพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับแต่ละองค์กร อาทิ การออกแบบประสบการณ์ของผู้ใช้งานและส่วนติดต่อระหว่างผู้ใช้กับระบบ (UX/UI) บนหน้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
- บริการที่ปรึกษาด้านการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงด้วยปัญญาประดิษฐ์ (Big Data & Advanced Analytics)โดยทำหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ด้วยเทคโนโลยีปัญญา
ประดิษฐ์ (AI) รวมถึงให้คำแนะนำการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล เพื่อนำไปใช้สร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม - บริการด้านทรัพยากรบุคคลชั่วคราวที่มีความเชี่ยวชาญด้านไอที (IT Staff Augmentation)โดยทำหน้าที่จัดหาพนักงานที่เชี่ยวชาญด้านไอที อาทิ โปรแกรมเมอร์ และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อปฏิบัติงานตามกำหนดระยะเวลาจนจบโครงการ
บลูบิค มีแผนขยายการลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตทั้งสิ้น 7 ด้าน ได้แก่ 1. การเพิ่มบุคลากรและพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยี ตลอดจนวางแผนพัฒนาศูนย์การพัฒนาทักษะ (Learning Academy Center) 2. พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลเพื่อให้บริการซอฟต์แวร์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (Software as a Service หรือ SaaS) รวมถึงจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Research and Development Center) 3. เสริมศักยภาพการบริหารจัดการภายใน ผ่านการยกระดับระบบซอฟต์แวร์เพื่อรองรับการเติบโตขององค์กร 4. ขยายพื้นที่สำนักงานรองรับการเพิ่มบุคลากร 5. ชำระเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงิน 6. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ และ 7. ลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องและ มีศักยภาพเพื่อสร้างการเติบโตและรับมือความผันผวนของตลาด
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ พร้อมเปิดรับโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ล่าสุดได้เดินหน้าความร่วมมือทางธุรกิจกับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ บริษัท ออร์บิท ดิจิทัล จำกัด (ORBIT) เพื่อเติมเต็มนวัตกรรมและศักยภาพด้านดิจิทัลสู่การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา