ทำความรู้จัก Bluebik บริษัท Consulting ไทย ที่กล้าท้าชนคู่แข่งระดับโลก

หลังจากมีชื่อ ธนา เธียรอัจฉริยะ รับตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สร้างความฮือฮาพอสมควรให้กับ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ Bluebik ว่าเป็นบริษัทอะไร มีความน่าสนใจอย่างไร ทำไม ธนา จึงตัดสินใจรับตำแหน่งนี้ ไปทำความรู้จัก บลูบิคไปพร้อมกัน

bluebik

Consulting Firm ที่ดึงดูดคนเก่งมาร่วมงาน

บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ Bluebik หลายคนรู้จักว่าเป็นบริษัทด้าน SI แต่พวกเขามองว่าตัวเองเป็น Consulting Firm หรือบริษัทที่ปรึกษา ที่ทำหน้าที่สร้างมูลค่า (Value Creation) ให้กับลูกค้าหรือพันธมิตร โดยเน้นเรื่อง Digital Transformation เป็นหลัก

พชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ บลูบิค บอกว่า ส่วนสำคัญของการเป็น Consulting Firm คือ การมี “คนเก่ง” จำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันคนเก่งของไทยอยู่บริษัทต่างชาติ และอยู่ต่างประเทศกันจำนวนไม่น้อย คนเก่งหลายคนลังเลที่จะกลับมาไทย หรือทำงานบริษัทไทย ทั้งด้วยความท้าทายและเนื้องานที่น่าสนใจไม่ค่อยมี แต่บลูบิค จะเป็นตัวเลือกที่ดีให้กับคนไทยที่มีความสามารถ (รวมถึงคนชาติอื่นๆ ในอนาคตอันใกล้) ให้กลับมาทำงานบริษัทไทย เพื่อรองรับตลาดในระดับภูมิภาคเอเชีย

ด้วยความที่เป็น Local Company ความได้เปรียบส่วนหนึ่งคือ ความเข้าใจวัฒนธรรมและปัญหาขององค์กรไทย รวมถึงองค์กรในภูมิภาคเดียวกันได้ดีกว่าบริษัทจากภูมิภาคอื่น แต่ขณะเดียวกันจากประสบการณ์ของ CEO ที่ผ่านงาน Consulting Firm ระดับท็อปของโลกมาแล้ว ทำให้เข้าใจมุมมองของโลกตะวันตกด้วย นี่จึงเป็นโอกาสที่เปิดกว้างให้กับบลูบิค

bluebik

เตรียมเข้าตลาด MAI เพื่อขยายธุรกิจ

วันนี้บลูบิค ยังเป็น Consulting Firm เล็กๆ ที่อยู่ในไทยเป็นหลัก แต่หลายคนให้ความสนใจ เพราะสามารถคว้างานโครงการใหญ่ๆ จากองค์กรใหญ่ๆ ในอุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร ประกันภัย โทรคมนาคม ค้าปลีก ฯลฯ ไม่ต่ำกว่า 20 โครงการในแต่ละปี และเตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ MAI กุญแจสำคัญที่จะช่วยติดปีกให้ขยายธุรกิจได้เร็วยิ่งขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า และภายใน 5 ปี บลูบิค จะบุกระดับภูมิภาค

เป้าหมายของบลูบิค ไม่ใช่แค่ในประเทศ ไม่ใช่แค่ระดับ CLMV แต่ต้องไประดับภูมิภาคเอเชีย ซึ่งกลุ่มธุรกิจที่เป็นเป้าหมายสำคัญ คือ การเงินการธนาคารและประกันภัย, ค้าปลีกและ FMCG, อสังหาริมทรัยพ์, โทรคมนาคม และธุรกิจพลังงาน ซึ่งเวลานี้ กลุ่มค้าปลีก หรือ Retail น่าสนใจที่สุด เพราะโดนดิสรัปทุกส่วน ตั้งแต่ พื้นที่, เวลา, ราคา, การแข่งขัน ไปจนถึงวิธีคิดในการทำธุรกิจ

แต่การจะแข่งขันกับ Consulting Firm ระดับโลกไม่ใช่เรื่องง่าย จุดเด่นนอกจากความเข้าใจบริษัทในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน การที่เป็นบริษัทขนาดยังเล็ก จะมีความคล่องตัวกว่า ไม่ยึดติดกับกรอบเดิมๆ มีวิธีการใหม่ๆ และสุดท้ายคือ ราคาที่ถูกกว่าด้วย

bluebik

ย้อนกลับมาที่ บลูบิค ที่บอกว่า ตัวเองไม่ใช่ SI และไม่ใช่ Agency แต่เป็น Consulting Firm สร้างการเติบโตให้ลูกค้า โดยปัจจุบันมี 5 บริการหลัก

  1. Management Consulting วางแผนด้านกลยุทธ์ เน้นเรื่องของ Digital Transformaiton การสร้าง Business Model ใหม่ เพื่อสร้างให้ธุรกิจเติบโต
  2. Design Consulting วางแผนออกแบบ Product&Service พัฒนา UXUI ให้เป็นสิ่งที่จับต้องได้และประสบความสำเร็จในทางธุรกิจ
  3. Enterprise งานด้าน Security การวาง Infrastructure สำหรับองค์กร
  4. Strategic PMO หรือ Project Management บริหารโครงการขนาดใหญ่ให้เป็นไปตามงบประมาณและเวลาที่กำหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  5. Deep Tech การวิเคราะห์ Big Data, AI, Machine Learning ต่างๆ

โอกาสธุรกิจเกิดจาก ผู้บริหารนอนไม่หลับ

โอกาสของบลูบิค จะเริ่มต้นจากองค์กรต่างๆ มีปัญหา แต่ไม่รู้ว่าปัญหาคืออะไร หรืออาจถึงขั้นไม่รู้ตัวว่ามีปัญหา เช่น ผู้บริหารระดับ C Level เริ่มนอนไม่หลับ เพราะ รายได้ลดกำไรหด, ไม่มีการเติบโต, ไม่มีช่องทางรายได้ใหม่, เจอการแข่งขันที่รุนแรง บลูบิค จะเข้าไปช่วยหาทางออก

เมื่อองค์กรมีความต้องการสร้างธุรกิจใหม่ แต่ไม่มีคน ไม่มีองค์ความรู้ด้าน Digital ไม่รู้วิธีการ ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร นี่คือสิ่งที่ บลูบิค เข้ามาช่วยเหลือด้วยบริการต่างๆ แต่ในอนาคตอันใกล้บลูบิคจะพัฒนารูปแบบเป็น พันธมิตรทางธุรกิจ ร่วมมือกันสร้างธุรกิจใหม่ๆ ด้วยกัน

ปัจจุบัน บลูบิค มีพนักงานระดับหัวกะทิ 130 คน จากจุดเริ่มต้น 4 ปีที่ผ่านมามีพนักงานไม่ถึง 10 คน ถือว่าเติบโตขึ้นมามาก และมีแผนเพิ่มพนักงานอีกเท่าตัว สิ่งที่ดึงดูดให้คนเก่งมาร่วมทำงาน่ นอกจาก Passion ของบริษัทเล็กที่ต้องการต่อกรกับยักษ์ใหญ่ระดับโลก บลูบิค ยังเป็นบริษัทคนรุ่นใหม่ที่มีความหลากหลายของงานให้เลือกทำได้ไม่มีเบื่อ และมี Career Path ที่กว้างมาก มีโอกาสเติบโตในสายอาชีพนี้อีกเยอะ

bluebik

ไม่ขายความเป็นไทย แต่ขายคุณภาพงาน

  • หลายคนยังมองเรื่อง Digital เป็นแค่อุปกรณ์ที่สามารถซื้อมาติดตั้งได้ แต่ความจริง Digital คือ แนวคิดและวัฒนธรรมองค์กรที่ต้องเปลี่ยนแปลง
  • ความท้าทายในการสร้าง Value ให้กับลูกค้าหรือพันธมิตร
  • การเป็นบริษัทขนาดเล็กที่ต้องพิสูจน์ตัวเองและแข่งขันกับบริษัทระดับโลก

คำว่า บลูบิค หรือ Bluebik มาจากคำว่า Blue+Bik

  • Blue คือ Blue Ocean น่านน้ำใหม่ที่ไม่นองเลือด มีโอกาสทางธุรกิจเปิดกว้าง ซึ่งในวันที่ก่อตั้งบริษัท ก็คือ Digital
  • Bik คือ RuBik สะท้อนถึง การแก้ปัญหา การสร้างสรรค์ ความรวดเร็ว และเป็นระบบ

ถ้าอยากมาร่วมงานกับ บลูบิค สิ่งสำคัญ 3 ส่วน คือ Mind Set, Team และ Skill

  • Mind Set ต้องทำลายข้อจำกัดตัวเอง ตั้งเป้าให้สูงที่สุด
  • Team Work ที่นี่ต้องการการทำงานเป็นทีมสูง ต้องรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างได้
  • Logical Thinking และ Skill ต้องมีความคิดเป็นเหตุเป็นผลและมีทักษะที่จำเป็นในตำแหน่งงาน

สุดท้าย พชร บอกว่า บริษัท Consulting Firm ที่เป็นคนไทยแทบไม่มีในตลาด บลูบิค แม้จะเป็นบริษัทไทยแต่ไม่ขายความเป็นไทย แต่เน้นขายคุณภาพงานเป็นหลักมากกว่า

bluebik

นี่คือโอกาสที่องค์กรต้องเปลี่ยนเพื่ออยู่รอด

ธนา เธียรอัจฉริยะ กับการนั่งประธานคณะกรรมการ ของ บลูบิค บอกว่า บลูบิค เป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยคนรุ่นใหม่ ที่เข้าใจโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เข้าใจความเป็นดิจิทัล ดังนั้นการเข้ามาทำหน้าที่บอร์ดของบริษัท จะทำให้

  • ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อัพเดทสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา นี่คือข้อดีที่ได้กับตัวเอง
  • ส่วนสำคัญในการสร้างแบรนด์ คือ ประสบการณ์และเครือข่าย ซึ่งเป็นสิ่งที่ ธนา มีอยู่ไม่น้อย ด้วยความอาวุโสน่าจะช่วยได้มาก
  • อยากมีส่วนให้ Consulting Firm ที่เป็นบริษัทไทย สามารถเติบโตและแข่งขันกับบริษัทระดับโลกได้
  • และน่าจะช่วยให้ บลูบิค เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ได้ภายในปีนี้

จังหวะนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก หลายองค์กรรู้ตัวแล้วว่าถ้าไม่เปลี่ยนแปลง มีโอกาสไม่รอดสูง มีหลายบริษัทปิดตัวลงไป เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่า จะสร้างการเติบโตจากของเดิมไม่ได้ ต้องสร้าง Business Model ใหม่สร้างรายได้และการเติบโตใหม่ ซึ่ง บลูบิค สามารถเข้าไปเติมเต็มส่วนนี้ได้

พร้อมกับทิ้งท้ายว่า เร็วๆ นี้จะเห็นความร่วมมือระหว่างบลูบิค กับ องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ของไทยแน่นอน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา