Black Lives Matter จุดกระแสการอ่านเข้าใจคนผิวดำ ทางรอดใหม่ต่อลมหายใจร้านหนังสือสหรัฐฯ

จากกระแสเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับ George Floyd ชายผิวดำที่ถูกตำรวจในเมือง Minneapolis ประเทศสหรัฐอเมริกาทำร้ายจนเสียชีวิตในที่สุด ก่อนจะลุกลามกลายเป็นการเรียกร้องความเท่าเทียมให้กับคนผิวดำทั่วโลก โดยเราจะรู้จักกันในชื่อว่า Black Lives Matter

ภาพจาก Shutterstock

ในขณะเดียวกันที่ประเทศสหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างหนัก จนสร้างความกังวลให้กับผู้ประกอบการร้านหนังสือหลายแห่งว่าจะต้องปิดร้านในที่สุด แต่กลายเป็นว่ากระแส Black Lives Matter กลับทำให้ร้านหนังสือของคนผิวดำได้รับประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากในช่วงนี้มีคนจำนวนมากหันมาสนใจหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการเหยียดเชื้อชาติ โดยเฉพาะจากกลุ่มคนที่เกิดการตั้งคำถาม และอยากทำความเข้าใจคนผิวดำในสหรัฐอเมริกาให้มากขึ้น

ร้านหนังสือของคนผิวดำยอดขายพุ่ง

ห้องสมุด ร้านหนังสือ เว็บไซต์ และ Social Media มีการแนะนำหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการเหยียดผิว จนทำให้หนังสือเหล่านี้ได้รับความนิยมขึ้นมา เช่น Between the World And Me เขียนโดย Ta-Nehisi Coates, White Fragility เขียนโดย Robin DiAngelo และ So You Want to Talk about Race เขียนโดย Ijeoma Oluo เป็นต้น

ทำให้ร้านหนังสือที่มีเจ้าของเป็นคนผิวดำหลายๆ แห่ง ได้รับประโยชน์จากกลุ่มคนที่ให้ความสนใจอย่างมาก ร้านหนังสือแห่งหนึ่งใน Boston เล่าว่ามีคำสั่งซื้อหนังสือกว่า 10,000 ครั้ง ภายในระยะเวลาเพียง 3 วัน และหลังจากนั้นก็มีคำสั่งซื้อทยอยเข้ามาเพิ่มอีกเรื่อยๆ มากกว่า 10,000 ครั้ง ทางอีเมลของร้าน โดยหนังสือที่คนสนใจล้วนเป็นหนังสือเกี่ยวกับเรื่องเชื้อชาติ และสีผิวทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตามแม้ว่าร้านหนังสือของคนผิวดำจะได้ประโยชน์จากกระแสความสนใจของคนที่หันมาตระหนัก และอยากหาความรู้เกี่ยวกับความเท่าเทียมของคนผิวดำมากขึ้น จนทำให้ร้านหนังสือเหล่านี้สามารถอยู่รอดในสถานการณ์โควิด-19 ได้

ภาพจาก Unsplash โดย Claudio Schwarz

หนังสือไม่พอขาย ไปรษณีย์ส่งช้าไม่ทันใจ

แต่อย่าลืมว่าในช่วงนี้ประเทศสหรัฐอเมริกากำลังเผชิญอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่ปกติจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์ รวมถึงผู้จัดจำหน่ายหนังสือหลายๆ แห่งเพิ่งจะประกาศปลดพนักงานออกไป ทำให้ ปริมาณหนังสือที่มีอยู่ไม่เพียงพอกับความต้องการ หากจะพิมพ์หนังสือขึ้นมาใหม่ก็ต้องใช้เวลานานกว่าปกติ นอกจากนี้บริษัทขนส่งและไปรษณีย์ของสหรัฐอเมริกายังต้องเผชิญกับคำสั่งซื้อจำนวนมากในช่วงที่คนส่วนใหญ่อยู่แต่ในบ้าน ทำให้การส่งหนังสือถึงมือลูกค้าต้องใช้เวลานานกว่าปกติ ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจ และเริ่มอยากขอเงินคืนเพราะได้สินค้าช้าเกินไป

ร้านหนังสือแห่งหนึ่งเล่าว่า หากจัดส่งหนังสือผ่านทางไปรษณีย์แบบปกติจะต้องใช้เวลานานถึง 8 สัปดาห์กว่าหนังสือจะส่งถึงมือลูกค้า ทำให้ร้านหนังสือหลายรายเลือกเปลี่ยนไปใช้การส่งหนังสือผ่านไปรษณีย์แบบ Priority ที่จะช่วยลดเวลาการจัดส่งไปได้

Nick Buzanski ผู้จัดการร้านหนังสือแห่งหนึ่งในนิวยอร์ค เล่าว่า ความต้องการอ่านหนังสือเกี่ยวกับคนผิวดำครั้งนี้ไม่ใช่กระแสอย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ เพราะสำหรับเขาแล้ว ความต้องการอ่านหนังสือเกิดจากความต้องการของคนที่ต้องการทำความเข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบัน

ที่มา – qz

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา