ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ความหวังเดียวที่จะช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างเป็นรูปธรรมได้ คือวัคซีน ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถผลิตวัคซีน และพร้อมใช้ได้ในเวลา 12-18 เดือนข้างหน้า
Bill Gates มหาเศรษฐีผู้ให้ความสนใจเรื่องการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และผู้ก่อตั้งมูลนิธิ Bill and Melinda Gates Foundation แสดงความคิดเห็นว่า ในขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าวัคซีนที่กำลังเร่งผลิตออกมาจะมีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นแต่ละประเทศควรมีการลงทุนในโรงงานผลิตวัคซีนหลายๆ แห่ง ถึงแม้ว่าในที่สุดแล้ววัคซีนที่ลงทุนผลิตไปอาจใช้ไม่ได้ครบทุกโรงงานก็ตาม แต่อย่างน้อยก็จะช่วยลดเวลาที่เราจะต้องรอผลิตวัคซีนลงไปได้
แต่ความจริงแล้วแม้โลกจะสามารถผลิตวัคซีนสำหรับโรคโควิด-19 ได้ในช่วงเวลา 12-18 เดือนข้างหน้า แต่ปัญหาที่น่ากังวลกว่าการผลิตวัคซีนคือ จะจัดสรรวัคซีนอย่างไรให้เท่าเทียม และถึงมือผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้อย่างเร่งด่วนอย่างไร ในเมื่อทุกคนก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคโควิด-19 เหมือนๆ กัน
กระจายวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อสามารถผลิตวัคซีนที่มีประสิทธิภาพได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว การจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งแรกที่ควรทำ เพราะวัคซีนเป็นของที่อ่อนไหวต่ออุณหภูมิมากๆ หากเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เย็นไป หรือร้อนไป อาจทำให้วัคซีนเสื่อมสภาพได้
ส่วนกระบวนการขนส่งวัคซีนก็เป็นเรื่องน่ากังวลเช่นเดียวกัน เพราะผู้ที่ต้องการวัคซีนอาจไม่ได้อยู่แต่พื้นที่ในเมืองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพื้นที่ห่างไกลหรือในชนบท โดยจะต้องขนส่งจากโรงงานด้วยรถบรรทุก หรือรถมอเตอร์ไซค์ แล้วค่อยเดินเท้าเข้าไปในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งกระบวนการทั้งหมดต้องควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมที่ 2-8 องศาเซลเซียสตลอดเวลาเพื่อรักษาคุณภาพของวัคซีน
นอกจากนี้การปิดพรมแดนของแต่ละประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาจกลายเป็นปัญหาทำให้ไม่สามารถขนส่งวัคซีนไปยังประเทศที่มีความต้องการได้ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่เที่ยวบินพาณิชย์ของหลายสายการบินต้องหยุดให้บริการชั่วคราว การขนส่งวัคซีนอาจต้องอาศัยเที่ยวบินขนส่งสินค้าโดยเฉพาะเพียงอย่างเดียว
ซึ่งกรณีการขาดแคลนวัคซีนไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแต่อย่างใด เพราะในขณะนี้ประเทศที่มีรายได้น้อย-ปานกลางหลายแห่ง เริ่มขาดแคลนวัคซีนโรคโปลิโอ โรคหัด และโรค HPV แล้ว เนื่องจากการปิดพรมแดนจึงไม่สามารถนำเข้าวัคซีนได้อย่างเพียงพอ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่น่ากังวลเพราะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาจส่งผลกระทบต่อโครงการป้องกันโรคอื่นๆ ที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง หากไม่สามารถขนส่งวัคซีนป้องกันโรคอื่นๆ ได้ อาจส่งผลต่อปริมาณคนไข้ที่มากขึ้นในโรงพยาบาล แน่นอนว่าจะไม่เป็นผลดีต่อการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 แน่ๆ
มูลนิธิ Bill and Melinda Gates Foundation แนะนำว่าในช่วงเวลา 12-18 เดือนก่อนที่จะผลิตวัคซีนสำเร็จ ควรมีการเตรียมซื้อวัคซีนล่วงหน้าไว้ รวมถึงต้องจัดหาเที่ยวบินเพื่อขนส่งวัคซีนไว้ให้พร้อม
ต้องแจกจ่ายวัคซีนอย่างเท่าเทียม
ถึงแม้ว่ากระบวนการผลิตวัคซีนจะรวดเร็วมากเพียงใด แต่คงไม่สามารถผลิตวัคซีนได้เพียงพอกับความต้องการแน่นอน ดังนั้นคำถามที่เกิดขึ้นคือ ในเมื่อวัคซีนมีจำกัดแล้วใครจำเป็นต้องได้วัคซีนก่อน?
Bill Gates แสดงความเห็นว่าควรมีการทำข้อตกลงร่วมกันทั่วโลกว่าใครควรได้วัคซีนก่อน ถึงแม้ว่าในความจริงจะไม่สามารถทำได้ เพราะรัฐบาลประเทศต่างๆ ที่ลงทุนในการผลิตวัคซีน ประเทศที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างหนัก ก็ต้องเรียกร้องสิทธิที่จะได้วัคซีนก่อนอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องดำเนินการแจกจ่ายวัคซีนอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะรวยหรือจน และต้องคำนึงถึงความจำเป็นของบุคคลากรทางการแพทย์ที่อาจต้องได้รับวัคซีนก่อน เพราะเป็นด้านหน้าทำการรักษาผู้ป่วย รวมถึงบุคคลทั่วไปที่ต้องการวัคซีนก็ควรพิจารณาตามลำดับความเสี่ยง ไม่เช่นนั้นผู้ที่ได้รับวัคซีนจะเป็นคนที่มีความกังวล แม้จะมีความเสี่ยงน้อย แต่คนที่มีความเสี่ยงมากกลับเข้าไม่ถึงวัคซีน
หากระยะเวลาผ่านไปจนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สามารถควบคุมได้แล้วในบางประเทศ แต่ยังมีประเทศอื่นๆ บางส่วนที่ควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ก็ควรมีการจัดสรรวัคซีนจำนวนมากไปให้ประเทศที่ยังมีความต้องการใช้วัคซีนที่มากกว่าแทน
ที่มา – Gate Foundation
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา