Meta สั่งปลดพนักงานราว 600 คนจากทีม AI เป็นสัญญาณชัดว่า แม้จะเป็นอาชีพที่ฮอตสุดของยุค ก็ยังสั่นคลอนได้ และสำหรับหลายคนในบริษัท การปลดครั้งนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องเงิน แต่คือเกมจัดระเบียบอำนาจภายใน ที่ทำเอาหลายคนหน้าเสียเงียบๆ
คำสั่งปลดมาจากอีเมลของ ‘Alexandr Wang’ หัวหน้า AI คนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาหลัง Meta ทุ่มงบมหาศาลให้ Scale AI รอบนี้กระทบทั้งโครงสร้างพื้นฐาน งานวิจัย และทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์
The Wall Street Journal อ้างอิงบันทึกภายใน ซึ่ง Wang ระบุว่า การลดขนาดทีมจะทำให้วงประชุมตัดสินใจน้อยลง แต่ละคนจะรับภาระงานมากขึ้น และมีผลกระทบชัดเจนขึ้นต่อองค์กร
อย่างไรก็ตาม ทีมที่รอดครบ คือกลุ่ม TBD Labs ทีมใหม่ของ Wang ที่ถูกมองว่าเป็นท็อปเทียร์ของบริษัท ซึ่งฟังดูแล้วก็รู้เลยว่าใครคือคนที่ Meta อยากเก็บไว้
Wang เสริมว่า พนักงานที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่ จะมีโอกาสย้ายไปทำงานในแผนกอื่นของ Meta ซึ่งความเชี่ยวชาญด้าน AI ของพวกเขาอาจยังพอให้มีที่ยืน
ที่ผ่านมา Meta ได้จ่ายเงินให้ Scale AI มูลค่า 4.64 แสนล้านบาท เพื่อแลกกับหุ้น 49% พร้อมดึง Wang มาบริหารแผนก AI ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้น ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาสิ่งที่เรียกว่า ‘Superintelligence’
ด้าน ‘Mark Zuckerberg’ เองก็ลงมาคุมเกมสรรหาบุคลากร เชิญแคนดิเดตมาทานข้าวที่บ้าน อธิบายเหตุผลว่าทำไมควรมาร่วมทีม และเสนอค่าตอบแทนหลายล้านดอลลาร์ฯ แบบไม่กั๊ก
ผลลัพธ์คือ Meta ดูดคนจาก Google, OpenAI, และ Apple มาแล้วกว่า 50 คน ส่วนใหญ่เข้าไปอยู่ในทีม TBD Lab ที่มีระบบเข้าออกพิเศษ และโต๊ะทำงานใกล้กับ ‘Zuckerberg’ ใครอยู่ใกล้เจ้านายมาก แปลว่าอยู่ในวงลึกของเกม
ขณะเดียวกัน ก็มีเสียงบ่นมาตลอดว่า ทีม AI มีขนาดใหญ่เกินจำเป็น งานทับซ้อน และแย่งทรัพยากรประมวลผลกันตลอด การลดจำนวนคนรอบนี้จึงเหมือนการชำแหละไขมันส่วนเกิน เร่งการตัดสินใจให้เร็วกว่าเดิม และทำให้งานที่ซ้ำกันไม่มีที่ยืนอีกต่อไป ใครไม่คมพอ ก็พร้อมถูกเบียดตกขอบ
หลังการปรับลดพนักงาน จำนวนบุคลากรของ Meta Superintelligence Labs เหลือไม่ถึง 3,000 คน ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ให้สัมภาษณ์กับ CNBC
Meta ยังแจ้งบางคนให้เตรียมสิ้นสุดการจ้างงานวันที่ 21 พฤศจิกายน โดยช่วงนี้จะอยู่ในสถานะ non-working notice period ระบบเข้าถึงภายในถูกตัด และพนักงานไม่ต้องทำงานเพิ่มเติม สามารถใช้เวลานี้หาตำแหน่งอื่นในเครือได้
แพ็กเกจชดเชยคือ 16 สัปดาห์ บวกเพิ่ม 2 สัปดาห์ต่อปีที่ทำงานครบ แต่จะหักช่วงแจ้งลาออกปัจจุบันออกจากยอดรวมด้วย
‘JP Gownder’ นักวิเคราะห์จาก Forrester บอกว่า เมื่อบริษัทใหญ่ทยอยซื้อสตาร์ทอัพ AI สิ่งที่เกิดขึ้นคือ จำนวนบริษัทอิสระจะลดลงเรื่อยๆ เทคโนโลยีและคนจะถูกดูดรวม ปรับโครง และตัดส่วนเกินออกทันที คล้ายองค์กรที่ดูด ‘ดีเอ็นเอ’ ตัวเก่ง แล้วทิ้งทั้งร่างไว้ข้างหลัง
ด้าน World Economic Forum ประเมินว่า AI อาจทำให้ตำแหน่งงานหายไป 85 ล้านตำแหน่งทั่วโลกใน 3 ปี แต่ก็สร้างใหม่ได้ 170 ล้าน ฟังดูเหมือนสมดุล แต่ช่องว่างระหว่างการเปลี่ยนผ่านนี่แหละ ที่จะเจ็บที่สุดสำหรับคนทำงานทั่วไป
สรุปง่ายๆ คือตลาด AI ยังเดือด ทุนยังทุ่มต่อ ทีมถูกรีดให้บางลง และเกมแย่งคนเก่งกำลังกายภาพเหมือนสนามอำนาจ ที่มีมีดซ่อนอยู่ใต้โต๊ะประชุม เช่นเดียวกับ Meta ที่เกมการเมืองภายในยังไม่จบง่ายๆ
- Meta เปิดตัว Teen Accounts บัญชีสำหรับวัยรุ่นในไทยบน Facebook และ Messenger ผู้ปกครองควบคุมการใช้งานได้
- Alexandr Wang ซีอีโอ Scale AI ประกาศย้ายไปทำงาน Meta หลังรับเงินลงทุนก้อนใหญ่ด้วยมูลค่ากิจการ 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์
ที่มา: CNBC [1] [2], The Wall Street Journal
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา