Big C อัด 1,000 ล้านบาท ยกระดับระบบสมาชิก ดึงลูกค้ากระเป๋าหนักช้อปต่อเนื่อง เผยแผน Super App

Big C ประกาศลงทุนแผน 5 ปี มูลค่า 1,000 ล้านบาท ยกระดับระบบสมาชิก Big Point หวังกลุ่มสมาชิกใช้ประจำ 3.6 ล้านบัญชี จับจ่ายต่อเนื่อง เผยลูกค้าสมาชิก 8% จ่ายหนักถึง 43% ของยอดขาย พร้อมปรับ Big C Plus สู่ Super App รองรับการซื้อสินค้าออนไลน์ของ Big C, เป็น E-Marketplace และบริการทางการเงิน

Big C

Big C เดินหน้ายกระดับระบบสมาชิก

บุษยา ยินดีสุข รองประธานเจ้าหน้าที่ สายธุรกิจบริหารคุณค่าลูกค้า บมจ. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เล่าให้ฟังว่า บริษัทมีแผนลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปี เพื่อยกระดับระบบสมาชิก Big Point ให้ตอบโจทย์การใช้งานกับลูกค้ามากขึ้น และช่วยรักษาลูกค้าที่จับจ่ายเป็นประจำให้เข้ามาใช้บริการต่อเนื่อง

การยกระดับระบบสมาชิก Big Point เบื้องต้น Big C จะนำระบบความสัมพันธ์กับลูกค้า และระบบวิเคราะห์ข้อมูลการจับจ่าย เพื่อนำเสนอโปรโมชันให้อย่างถูกต้อง รวมถึงระบบสะสมคะแนน 25 บาท เท่ากับ 1 คะแนน โดย 1 คะแนน เท่ากับ 1 บาท ทั้งเชื่อมต่อระบบสมาชิกขององค์กรอื่นเพื่อนำคะแนนมาแลกในระบบ Big Point ได้เช่นกัน

Big C มีลูกค้าสมาชิก Big Point ที่ใช้งานต่อเนื่อง (Active User) 3.6 ล้านบัญชี/เดือน โดยในจำนวนนี้แบ่งเป็นสมาชิกทั่วไป 59% คิดเป็นยอดขาย 26%, สมาชิกระดับ Loyalist 33% คิดเป็นยอดขาย 31% และสมาชิกระดับ Super Loyalist 8% แต่คิดเป็นยอดขายถึง 43% แสดงให้เห็นถึงความสำคัญในการรักษาลูกค้ากลุ่มนี้

เชื่อมต่อกับค้าปลีกของกลุ่ม Big C

ขณะเดียวกัน Big Point ยังเชื่อมต่อกับค้าปลีกทุกระดับของกลุ่ม Big C หรือตั้งแต่ร้าน Big C Mini, ร้านยาเพรียว, ร้านกาแฟวาวี จนไปถึง Big C สาขา Hypermarket และยังมีแผนนำ Big Point ไปแลกซื้อสินค้า และบริการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับการใช้งาน

สิ้นไตรมาส 2 ปี 2023 กลุ่ม Big C มีค้าปลีกรวมกว่า 1,600 แห่ง เช่น ร้านโชห่วยในชื่อ ร้านโดนใจ 1,170 แห่ง, ร้านสะดวกซื้อ Big C Mini 1,435 แห่ง และ Big C ระดับ Hypermarket 199 แห่ง โดยนอกจากทำระบบสมาชิกสำหรับลูกค้าคนไทย Big C มีแผนทำระบบนี้ให้ตอบโจทย์ลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติเช่นกัน

“เรามีแผนเปิดสาขาขนาดใหญ่ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวให้เป็น 60 สาขา จากเดิม 25 สาขา โดยมีสาขาราชดำริเป็นสาขาตัวอย่าง ซึ่งสาขาเหล่านี้มียอดขายเติบโตถึง 37% คิดเป็น 24% ของยอดขายทั้งหมด ทำให้เราต้องขยายสาขาแบบนี้มากขึ้น” อัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ กล่าว

ใช้ Super App ช่วยดึงลูกค้าอีกทาง

ขณะเดียวกัน Big C เตรียมปรับปรุงแอปพลิเคชัน Big C Plus ที่มียอดดาวน์โหลด 6 ล้านครั้ง เป็น Super App เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจในรูปแบบ Omni Channel ที่เป็นมากกว่าสาขาตามพื้นที่ต่าง ๆ กว่า 1,600 แห่ง เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่รวมสินค้าทั้งในไทย และต่างประเทศ รวมถึงตอบโจทย์ลูกค้าไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ควบคู่ไปกับการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น การไลฟ์สตรีมขายสินค้าโดยพนักงานของสาขา Hypermarket ต่าง ๆ กับการซื้อสินค้าผ่าน Chat Commerce เป็นต้น โดยการปรับครั้งนี้ทำให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น 30% และมีจำนวนคำสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น 74%

นอกจากนี้ Big C ยังเปิดร้านในประเทศจีนเพื่อให้ลูกค้าชาวจีนซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกผ่านการมีคลังสินค้าที่นั่น คู่กับคลังสินค้าหลักที่สาขาราชดำริ และเพื่อให้เป็น Super App ทาง Big C เตรียมทำ E-Marketplace ให้คู่ค้าสามารถนำสินค้ามาฝากขายออนไลน์ และจำหน่ายบริการทางการเงินต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชันได้

อ้างอิง // Big C

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา