Brand Inside พาไปทำความรู้จักกับเทศกาลดนตรี Coachella ว่ายิ่งใหญ่เพียงใด และใครเป็นเจ้าของเทศกาลดนตรีที่มีรายได้จากการขายบัตรสูงถึงหลักพันล้านบาท
หากจะพูดถึงเทศกาลดนตรี หรือ Music Festival ที่คนไทยรู้จักกันดีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ย่อมไม่มีใครไม่รู้จักในชื่อ Coachella ซึ่งงานนี้จะจัดในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี งานนั้นจะจัดที่ Empire Polo Club เมือง Indio รัฐ California โดยในปีนี้งานจัดในวันที่ 12-14 เมษายนในอาทิตย์แรก ส่วนอาทิตย์ที่สองจัดในช่วงวันที่ 19-21 เมษายน และเป็นงานที่ศิลปินนักร้อง หรือแม้แต่ DJ รวมไปถึงเซเลบดังๆ ต่างต้องไปงานนี้
ทำไมเทศกาลนี้ถึงน่าสนใจ รายได้งานนี้ทำไมถึงมหาศาลถึงหลักพันล้านบาท คนมาเยอะแค่ไหน ใครเป็นเจ้าของ Brand Inside จะพาไปหาคำตอบกับเทศกาลดนตรีชื่อดังนี้
Music Festival ที่ใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก
สำหรับ Coachella นั้นเป็นเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกงานหนึ่งก็ว่าได้ โดยมีผู้จัดคือ Goldenvoice ก่อตั้งโดย Paul Tollett และ Rick Van Santen ซึ่งเริ่มจัดงานในปี 1999 และมาเริ่มจัดอีกในปี 2001 จนถึงปัจจุบัน
โดยตัวเลขล่าสุดปี 2017 จาก Billboard ถ้าหากนับจำนวนผู้เข้างานจะมีจำนวนกว่า 125,000 คนต่อสัปดาห์ ต้องย้อนไปถึงเรื่องการจัดงานที่มีสองสัปดาห์เนื่องจากว่าในปี 2011 มีผู้เข้าร่วมมากเกินกว่าผู้จัดจะคาดถึง แถมราคาตั๋วผีในสมัยนั้นก็ถือว่าแพงมาก เลยทำให้ผู้จัดต้องจัดงานเพิ่มเป็น 2 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา โดยขายตั๋วแยกเป็นแต่ละสัปดาห์
และการจัดงาน 2 สัปดาห์ถึงกับทำให้นิตยสารเพลงชื่อดังอย่าง Rolling Stone ถึงกับออกมาแสดงความเห็นในปีนั้นว่า เป็นความเคลื่อนไหวที่โคตรเสี่ยงอย่างยิ่ง เพราะไม่มีใครการันตีถึงเรื่องผู้ที่อยากเข้าร่วมงานได้ แต่ Coachella ก็ได้พิสูจน์มาแล้วจนถึงปัจจุบันว่าเสี่ยงแล้วคุ้ม
Lineup ระดับเทพ การตกแต่งงานอลังการ
ด้วยงาน Music Festival ระดับรุ่นใหญ่สุดของวงการ ฉะนั้นแล้วศิลปินที่มาเล่นที่ Coachella มักจะเป็นศิลปินตัวท็อปของวงการ เช่น Radiohead หรือแม้แต่ Pet Shop Boys นักร้องตัวแม่อย่าง Beyonce หรือ Taylor Swift รวมไปถึง Kanye West ก็เคยเหยียบเวทีที่ Coachella มาแล้ว ไม่นับรวมไปถึงศิลปินหรือดีเจที่มีชื่อเสียงกำลังโด่งดังในช่วงเวลานั้นๆ เช่น Zedd หรือแม้แต่ Khalid ฯลฯ
นอกจากนี้เราจะเห็นการนำงานศิลปะไปโชว์ไว้ในงาน (เช่นรูปเวทีด้านบน หรือรูปที่เป็นมนุษย์อวกาศ) รวมไปถึงการออกแบบโครงสร้างบางเวทีที่ถือว่ามีดีไซน์ที่สวยงามมากจนทำให้บางเทศกาลดนตรี โดยเฉพาะแถบละแวกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถึงกับพยายามทำให้บรรยากาศเทศกาลดนตรีที่จัดเหมือนกับ Coachella มากที่สุด
รายได้หลักพันล้านบาท
การที่จัดงาน 2 สัปดาห์ทำให้ยอดขายบัตรนั้นถือว่าสูงเป็นหลักพันล้านบาท โดยในปี 2017 ยอดขายบัตรรวมแล้วได้มากถึงประมาณ 3,600 ล้านบาท เป็นเทศกาลดนตรีแรกๆ ที่มีรายได้จากการขายบัตรเกิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐอีกด้วย ซึ่งในปี 2007 รายได้จากการขายบัตรได้เพียงแค่ 508 ล้านบาทเท่านั้น และมีผู้เข้าร่วมงานประมาณแค่ 62,000 คนเท่านั้น
ไม่ใช่แค่เพียงรายได้จากการขายบัตรเท่านั้น แต่แบรนด์ต่างๆ ก็อยากจะมีส่วนร่วมกับงานนี้ และในงานเองยังแทบจะเหมือนรันเวย์แฟชั่นโชว์อีกด้วย ซึ่งเราจะเห็นได้จากธีมการแต่งตัวในงานที่ไม่เหมือนใคร
เจ้าของงานตัวจริงคือใคร
อย่างที่บอกไปแล้วว่าผู้จัดงานนั้นคือ Goldenvoice แต่ตัวบริษัทเองได้ขายให้กับ Anschutz Entertainment Group หรือ AEG ซึ่งเป็นบริษัททางด้านความบันเทิงและกีฬาของสหรัฐในปี 2001 มูลค่าเพียงแค่ 7 ล้านเหรียญเท่านั้น ซึ่งเจ้าของตัวจริงคือ Philip Anschutz มหาเศรษฐีชาวสหรัฐวัย 79 ปี
ไม่ใช่แค่งานอย่าง Coachella เท่านั้นที่อยู่ในพอร์ตโฟลิโอของ AEG แต่บริษัทยังมีเทศกาลดนตรีมากมายในสหรัฐ เช่น Firefly Music Festival หรือ Electric Forest ฯลฯ รวมไปถึงทรัพย์สินอื่นๆ เช่น หุ้นในทีม LA Galaxy เจ้าของ O2 Arena ในกรุงลอนดอน ฯลฯ
อย่างไรก็ดีบริษัทไม่ได้จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ทำให้ยากแก่การประเมินมูลค่า โดยในปี 2012 นิตยสาร Forbes คาดว่ามูลค่าบริษัทจะอยู่ราวๆ 250,000 ถึง 318,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันคาดว่ามูลค่าน่าจะสูงขึ้นกว่านี้อีกมาก
ที่มา – AEG
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา