Brand Inside วิเคราะห์ เมื่ออินเดียกำลังจะกลายเป็นสนามรบใหม่ของบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐอย่าง Facebook Google รวมไปถึง Amazon ที่แต่ละบริษัทสนใจหรือกำลังลงทุนกับค่ายมือถือ 3 ค่ายในอินเดีย
Amazon และ Google สนใจที่จะลงทุนในผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในประเทศอินเดีย ซึ่งอินเดียเป็นประเทศที่กำลังมีอัตราเติบโตของผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการใช้งานอินเตอร์เน็ตที่เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันอินเดียกำลังจะกลายเป็นสมรภูมิใหม่สำหรับบริษัทเทคโนโลยี หลังจากที่ Facebook ได้ลงทุนใน Jio ค่ายมือถือใหญ่ของอินเดียไปแล้ว
- มารู้จักกับ Jio ค่ายมือถือในอินเดียที่ Facebook ลงทุน แถมเจ้าของเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของเอเชีย
- เผย Amazon กำลังเจรจาซื้อหุ้น Bharti Airtel ผู้ให้บริการมือถือเบอร์ 3 ของอินเดีย
- Facebook ประกาศลงทุน 5,700 ล้านดอลลาร์ ใน Jio ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์รายใหญ่ของอินเดีย
ไม่ใช่แค่ Jio เท่านั้น
แม้ในช่วงที่ผ่านมาเราจะเห็น Private Equity ได้ประกาศลงทุนใน Jio ค่ายมือถือรายใหญ่ของอินเดีย ต่อจาก Facebook ซึ่งรวมๆ แล้วเป็นเม็ดเงินมหาศาล แต่ค่ายอื่นๆ ก็มีข่าวทยอยมาไม่น้อยหน้าเช่นกัน
โดยสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานข่าวว่า Google สนใจลงทุนในค่ายมือถืออย่าง Vodafone Idea ด้วยสัดส่วนการลงทุนประมาณ 5% โดยเม็ดเงินดังกล่าวจะช่วยต่ออายุของ Vodafone Idea หลังจากที่ยังค้างชำระใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ราวๆ 7,400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเกือบๆ 240,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน Reuters ได้รายงานว่า Amazon ได้สนใจที่จะลงทุนใน Bharti Airtel ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่อันดับ 3 ของอินเดีย โดยมูลค่าการลงทุนสูงมากถึง 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนราวๆ 5% อย่างไรก็ดีถ้าหากตกลงในเรื่องมูลค่าลงทุนไม่ได้ ก็อาจเป็นการจับมือเป็นพันธมิตรทดแทน
แม้ว่า 2 ค่ายมือถือได้ออกมากล่าวว่าดีลดังกล่าวยังไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดก็ตาม แต่ราคาหุ้นของทั้ง Vodafone Idea และ Bharti Airtel ได้วิ่งรับข่าวดีนี้ไปเรียบร้อยแล้ว
ไม่เพียงแค่นั้น ล่าสุด Jio ค่ายมือถือที่กลายเป็นเบอร์ 1 ของอินเดียไปแล้ว ได้ Mumbadala กองทุนความมั่งคั่งจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาลงทุนด้วยมูลค่าถึง 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งทำให้ Jio ของมหาเศรษฐี Mukesh Ambani ได้เงินไปแล้วเหนาะๆ อย่างน้อย 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐแล้ว
จากเสือนอนกิน และผู้ที่เข้ามาใหม่
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาราคาของค่าบริการของแพ็คเกจอินเตอร์เน็ตในประเทศอินเดียลดลงมาเรื่อยๆ จนถือว่ามีราคาถูกมาก จากการเข้ามาของ Jio ที่มีโปรโมชั่นเปิดตัวคือสามารถโทรฟรี และมีค่า Data ที่ถูกกว่า 2 เจ้าใหญ่อย่าง Bharti Airtel และ Vodafone และทำให้ 2 เจ้าใหญ่เองในท้ายที่สุดต้องลงมาเล่นเกมลดราคา Data
ก่อนหน้านี้อดีตเบอร์ 1 อย่าง Bharti Airtel และเบอร์ 2 อย่าง Vodafone เองมีค่าบริการและค่า Data ที่ถือว่าแพงกว่าปัจจุบันมาก และทำให้เบอร์ 1-2 ของตลาดอินเดียแทบจะกลายเป็นเสือนอนกิน ขณะเดียวกันค่ายมือถืออันดับรองลงมาก็ไม่สามารถจะต่อสู้กับยักษ์ใหญ่ได้ เนื่องจากสะสมเงินสดไว้ในมือมากกว่า
การเข้ามาของ Jio ทำให้เบอร์ 1-2 ของตลาดอินเดียในขณะนั้นต้องปรับตัวอย่างหนัก เพราะไม่งั้นแล้วลูกค้าจะย้ายไปยังค่ายมือถือน้องใหม่ (แถมเงินหนา) ขณะเดียวกันผลกระทบยังทำให้ค่ายมือถือขนาดกลางๆ อย่างเช่น TATA หรือแม้แต่ Telenor ยังต้องขายกิจการให้กับผู้เล่นที่ใหญ่กว่า
แม้แต่ค่ายใหญ่อย่าง Vodafone ท้ายที่สุดก็ยังต้องควบรวมกิจการกับ Idea เพื่อให้ขนาดใหญ่มากขึ้นเพื่อต่อสู้กับ Jio และ Bharti Airtel
ปัจจุบันสัดส่วนของค่ายมือถือ 3 เจ้านี้ได้ครองตลาดอินเดียไปแล้วกว่า 90% และคาดว่าใช้เวลาไม่นานจะสามารถกินส่วนแบ่งทางการตลาด 95% ได้ และยิ่งทำให้ค่ายมือถือขนาดกลางและเล็กกำลังจะกลายเป็นอดีตไป เนื่องจากการลงทุน 4G และ 5G ในประเทศอินเดียหลังจากนี้จะต้องใช้เงินอย่างมหาศาล และยิ่งทำให้ค่ายมือถือลำบากในการระดมทุนมากกว่าเดิม
มองหลังจากนี้
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนี้จะทำให้อินเดียกลายเป็นสนามรบแห่งใหม่ของบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็น Google และ Facebook รวมไปถึง Amazon โดยที่ตัวแทนของบริษัทเหล่านี้คือค่ายมือถือของอินเดียเอง ซึ่งแต่ละรายที่เราจะได้เห็นหลังจากนี้คือมีบริการที่ถูกลงกว่าเดิม หรือแถมบริการของบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อหาลูกค้าใหม่ๆ หรือดึงลูกค้าจากอีกค่าย
ขณะที่เม็ดเงินที่หลายๆ บริษัทเทคโนโลยี รวมไปถึง Private Equity ต่างๆ ที่เติมเงินลงมาในผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในประเทศอินเดีย โดยแลกเป็นหุ้นในขณะนี้ถือเป็นเวลาที่ดี เนื่องจากสภาวะสงครามของการแข่งขันของค่ายมือถือในประเทศอินเดียนั้นเรียกได้ว่าแทบจะจบสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดีสิ่งที่ตามมาคือหนี้ของค่ายมือถือต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ฉะนั้นการลงทุนตอนนี้ถือว่าเป็นการต่ออายุให้กับค่ายมือถือไปในตัวด้วย
อย่างไรก็ดีโอกาสใหม่ๆ ในโลกดิจิทัลของอินเดียยังเปิดกว้างอีกมาก และเมื่อมองจากการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีของประเทศจีนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้จะลงทุนในอินเดีย เนื่องจากอินเดียยังมีศักยภาพ เช่น GDP ในระยะยาวที่เติบโตสูง ประชากรจำนวนมากแต่ยังเข้าถึงอินเตอร์เน็ตน้อยอยู่ การใช้ Data ยังถือว่าต่ำ เมื่อเทียบกับประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา