ความดุเดือดของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในประเทศอินเดียทำให้มีผู้ที่ไม่ได้ไปต่อนั้นหลายรายมาก เปลี่ยนมือไปก็หลายราย ล่าสุดกลุ่ม TATA ได้ประกาศขายธุรกิจส่วนผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือให้กับ Bharti Airtel แล้ว นี่ไม่ใช่จุดเริ่มต้นของการไล่ซื้อหรือควบรวมกิจการของผู้แพ้ และนี่ก็ไม่ใช่จุดจบของเรื่องนี้อีกเช่นกัน
หลังจากมีข่าวลือมาได้สักพักใหญ่ๆ แต่ยังไม่มีการยอมรับของทั้งสองฝ่าย จนล่าสุดเมื่อวานนี้ทั้งสองบริษัทได้ข้อตกลงที่จะขายกิจการระหว่าง TATA Teleservices ไปให้กับ Bharti Airtel โดยประธานของ TATA Sons ได้กล่าวว่านี่เป็นข้อตกลงที่ดี และเป็นทางออกที่ดีสุด โดยทาง TATA เองได้คิดหาแนวทางหลายๆ ทาง จนในที่สุดการขายกิจการให้ Bharti เป็นทางออกที่ดีที่สุด
ปัญหาใหญ่ในประเทศอินเดียคือผู้เล่นรายใหม่แถมมาแรงมาก
ปัญหาใหญ่ที่สุดของ TATA โดยเฉพาะธุรกิจผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ก็เพราะว่าในขณะนี้ประเทศอินเดียมีผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ “เจ้าใหญ่ ถึง 8 เจ้าด้วยกัน” ทำให้การแข่งขันนั้นสูงมากๆ ก่อนที่จะมีรายที่ 8 เข้ามานั้นก็ถือว่าสงครามผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือก็ดุเดือดแล้ว ยิ่งรายที่ 8 เข้ามาโดยยักษ์ใหญ่หนุนหลังอย่าง Jio ซึ่งเป็นบริษัทลูกในเครือของ Reliance ซึ่งเป็นโรงกลั่นน้ำมันเจ้าใหญ่ในอินเดีย โดยที่การเข้ามาครั้งนี้มีการตัดราคา Data ซึ่งถือว่าถูกมากสำหรับชาวอินเดีย ซึ่งเปิดตัวมาได้มานาน แต่มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่สูงมาก และแถมตอนนี้ยังมีการเริ่มเปิดบริการ Fiber To Home (FTTX) ในราคาที่เซอร์ไพรส์ตลาดอินเดียด้วย
กลุ่ม TATA เองต้องการปรับสภาพองค์กรใหม่ด้วย
เรื่องที่เป็นปัญหารุมเร้า TATA Teleservices คือหนี้อันมหาศาลในธุรกิจผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ กว่า 3 แสนล้านรูปี แถมยังมีคดีความกับ NTT DoCoMo ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใน TATA Teleserives และการแย่งตลาดอย่างที่อธิบายไปข้างต้นแล้ว เป็นสาเหตุให้กลุ่ม TATA นั้นต้องเร่งตัวในการจัดกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ นอกจากที่จะขายกิจการ TATA Teleservices ให้กับ Bharti Airtel แล้ว กลุ่ม TATA เคยมีแผนที่จะขายกิจการของ TATA Communications ISP ชื่อดังระดับโลก และ TATA Sky ผู้ให้บริการทีวีบอกรับสมาชิกเจ้าใหญ่ในประเทศอินเดีย ไปให้ Bharti Airtel ด้วย แต่ไปๆ มาๆ สุดท้ายกลายเป็นว่าทางกลุ่ม TATA กำลังจะควบรวมกิจการในเครือของตัวเองแทนเพื่อให้เกิด Synnergies ระหว่างกัน รวมไปถึงกลุ่มเหล็กอย่าง TATA Steel ที่พึ่งมีดีลในทวีปยุโรปกับ Thyssenkrupp ด้วย เพื่อสู้กับ ArcelorMittal
ก่อนหน้านี้เคยมีการควบรวมกิจการมาก่อนไหม
เมื่อเงื่อนไขของธุรกิจผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในอินเดียทำให้ทำธุรกิจยากขึ้น ฉะนั้นผู้เล่นที่ไม่สามารถอยู่ได้ก็ต้องแพ้ไปโดยการขายกิจการ หรือไม่ก็ต้องควบรวมกิจการ ยกตัวอย่างล่าสุดในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาในอินเดียมีดีลสำคัญในการควบรวมผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือหรือไม่ก็ขายกิจการไปเลยเช่น
- Vodafone India ประกาศควบรวมกิจการของ Idea Cellular ซึ่งข่าวล่าสุด ผู้ถือหุ้นโหวตให้ควบรวมกิจการกันถึง 99%
- Telenor India ขายกิจการผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือใน 7 รัฐให้กับ Bharti Airtel
อีกดีลที่น่าสนใจคือ Reliance Communications ก็มีข่าวจะควบรวมกิจการกับ Aircel แต่ดีลก็ล่มไปเสียก่อนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
ธุรกิจผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในประเทศอินเดียไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
ในประเทศอินเดียนั้นเวลามีการประมูลคลื่นนั้นจะประมูลเป็นแบบรัฐ ไม่ใช่ทั้งประเทศแบบที่ในประเทศไทยทำอยู่เช่นทุกวันนี้ ฉะนั้นความยากในการทำธุรกิจนั้นย่อมยากกว่าแน่นอน เพราะถ้าสมมติประมูลคลื่นในรัฐมีผู้ใช้หนาแน่นไม่ได้ก็ถือว่าเกมนั้นจบทันที อีกประเด็นที่สำคัญคือ Regulator ที่อินเดียต้องการการประมูลคลื่นให้ได้ราคาสูงสุด ทำให้เป็นความยากลำบากอีกประการ รวมไปถึงการที่ต้องติดตั้งเสาโทรคมนาคม ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย
ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในประเทศอินเดียอาจมีดีลควบรวมกิจการอีกรอบ
ในอนาคตผู้เล่นใหญ่ๆ อย่าง Bharti Airtel, Vodafone Idea Cellular นั้นมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้น มีคลื่นในมือ รวมไปถึงคลื่นที่ได้มาจากการควบรวมกิจการ ฉะนั้นรายกลางและรายเล็กในประเทศอินเดียอาจถึงเวลาที่เร่งให้มีการควบรวมกิจการอีกรอบ เพราะธุรกิจผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ต่อไปภายในอนาคตนั้นอาจต้องใช้เงินอีกมหาศาลในการเร่งติดตั้งเสาโทรคมนาคม สายไฟเบอร์ออพติก รวมไปถึงต้องเก็บเงินอีกส่วนเพื่อการประมูลคลื่นครั้งต่อไป ฉะนั้นในที่สุดธุรกิจผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในประเทศอินเดียจะเหลือน้อยรายลงแน่นอน ยกเว้นว่า Regulator จะเปิดโอกาสให้รายเล็กๆ ลืมตาอ้าปากอีกรอบ หรือไม่ก็มีรายใหญ่ เหมือนกรณี Jio ท่ีเข้ามา
ที่มา – Bloomberg, Nikkei Asian Review, Bloomberg Quint, The Economic Times
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา