ร้านมือถือในห้างล่มสลาย Best Buy ค้าปลีกรายใหญ่ของอเมริกาสั่งปิดกว่า 250 แห่งทั่วประเทศ ปัจจุบันยังไม่ทราบจำนวนพนักงานที่จะตกงานในครั้งนี้
ร้านมือถือในห้างล่มสลาย ตกงานกี่ราย-ยังไม่ทราบจำนวน
Best Buy ค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา สั่งปิดร้านมือถือในห้างจำนวน 250 แห่ง โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป ส่วนเหตุผลที่ต้องปิดคือ ธุรกิจนี้ทำกำไรได้น้อยลง ปัจจัยหลักมาจากการแข่งขันที่รุนแรงของตลาดมือถือในปัจจุบัน
ในจดหมายของ Hubert Joly ผู้บริหารของ Best Buy บอกกับพนักงานว่า “เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนที่ Best Buy เปิดร้านขายมือถือ กำไรจากการขายมือถือยังคงสูง แต่นั่นเป็นช่วงเวลาก่อนหน้าที่ Apple จะเข้ามาทำตลาด และได้ทำให้ตลาดเปลี่ยนแปลงไปมาก ในปัจจุบันต้นทุนของร้านมือถือแบบ stand alone ไม่คุ้มทุนอีกต่อไปแล้ว”
การสั่งปิดร้านมือถือของ Best Buy จะกระทบรายได้ของบริษัทประมาณ 1% และจะมีผลในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ส่วนร้านมือถือของ Best Buy ในแคนาดากว่า 52 แห่ง จะยังไม่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้
ส่วนตัวเลขพนักงานที่ได้รับผลกระทบ Best Buy ยังไม่เปิดเผยตัวเลข แต่ Best Buy สัญญาว่าจะหางานอื่นในบริษัทให้ทำภายใน 3 เดือนหลังจากนี้ นอกจากนั้น หากพนักงานคนใดที่ไม่ลาออกก่อนวันที่ 31 พฤษภาคม ทางบริษัทจะจ่ายเงินชดเชยเพิ่มให้ และจะช่วยหางานภายนอกบริษัทให้อีกด้วย
สรุป
Best Buy สั่งปิดร้านมือถือกว่า 250 แห่งในสหรัฐอเมริกา เหตุเพราะกำไรจากธุรกิจนี้ลดลงอย่างมาก หลังการเกิดขึ้นของบริษัทซอฟต์แวร์ใหญ่อย่าง Apple รวมถึงอีคอมเมิร์ซรายใหญ่อย่าง Amazon
อันที่จริง ค้าปลีกในสหรัฐอเมริกาส่อแววอยู่ยากมาสักพักแล้ว ปีก่อนค้าปลีกพากันล่มสลายไปกว่า 3,500 แห่ง
บทเรียนสำหรับไทย กรณีนี้เราจำเป็นต้องหันมามองตัวเองบ้างว่า “ร้านมือถือในห้างสรรพสินค้า” ของไทยปรับตัวมากน้อยแค่ไหน เพราะอย่าลืมว่า ในวันที่ส่วนต่างกำไรจากการขายโทรศัพท์มือถือต่ำลงเรื่อยๆ ถ้ายังรั้นทำธุรกิจแบบเดิมๆ เหมือน 10 ปีที่แล้ว แล้วจะอยู่รอดกันได้อย่างไรในยุคนี้
ที่มา – Reuters
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา