ค้าปลีกดั้งเดิมมีปัญหาจริงๆ เพราะก่อนหน้านี้ถูก E-Commerce โจมตีอย่างหนัก และในปี 2020 มี COVID-19 เข้ามาซ้ำ ล่าสุด Best Buy หนึ่งในค้าปลีกชั้นนำของสหรัฐอเมริกา เตรียมประกาศปลดพนักงานอีกรอบแล้ว
Best Buy กับการควบคุมต้นทุนครั้งสำคัญ
รายงานข่าวแจ้งว่า Best Buy ได้แจ้งพนักงานเกี่ยวกับการปลดพนักงานบางตำแหน่งในกว่า 900 สาขาทั่วโลก แต่บริษัทไม่ได้แจ้งรายละเอียดต่างๆ เช่นเป็นพนักงานคนไหน, รวมทั้งหมดกี่คน และค่าชดเชยต่างๆ โดยมีเพียงการแจ้งให้พนักงานพัฒนาตัวเองเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ได้ดีขึ้น
“ปัจจุบันพฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้าได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก และไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิม โดยเฉพาะการใช้งานบริการดิจิทัลต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขา ทำให้ตัวธุรกิจต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิทัลให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” ตัวแทนของ Best Buy แจ้ง
ในปีปฏิทินก่อนหน้านี้ Best Buy มีพนักงานราว 1.25 แสนคน และเมื่อเดือนเม.ย. 2020 ทางบริษัทมีการพักพนักงานรายชั่วโมงกว่า 51,000 ตำแหน่งชั่วคราว เพราะบริษัทต้องปิดให้บริการชั่วคราวผ่านมาตรการควบคุมการระบาดของโรค COVID-19
อย่างไรก็ตาม Best Buy ได้จ้างพวกเขากลับมาส่วนหนึ่ง เพราะความต้องการสินค้าคอมพิวเตอร์ และเครื่องเกมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ผ่านการที่ผู้บริโภคจำนวนมากต้องกักตัวอยู่ที่บ้านเพื่อป้องกันการระบาดของโรค COVID-19 โดยช่วงเวลาเดียวกัน ค้าปลีกดั้งเดิมในสหราชอาณาจักรยื่นล้มละลาย และขายทอดกิจการให้ค้าปลีกออนไลน์จำนวนหนึ่ง
สรุป
ถือเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญของ Best Buy เพราะตัวค้าปลีกจะพึ่งแต่หน้าร้านก็ไม่ได้ และถึงจะพยายามเป้นผู้ค้าออนไลน์แล้ว ปัจจุบันก็มีทั้งค้าปลีกที่ปรับตัวไปด้านนี้เหมือนกัน และมีค้าปลีกออนไลน์ที่ก่อตั้งมานานแล้วคอยเป็นศัตรูสำคัญด้วย ดังนั้นการปรับตัวครั้งนี้คงต้องดูกันว่า Best Buy จะไปรอดในอนาคตหรือไม่
อ้างอิง // Reuters
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา