ปีใหม่ ก็เริ่มทำอะไรใหม่ๆ ล่าสุด เบลเยียมเริ่มแบนขายบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว!
Frank Vandenbroucke รัฐมนตรีสาธารณสุขเบลเยียมเริ่มประกาศแบนบุหรี่ไฟฟ้ามาตั้งแต่ปีที่แล้ว เขามองว่าบุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นผลิตภัณฑ์อันตรายที่ทำลายสังคมและสิ่งแวดล้อม และบุหรี่ไฟฟ้ามักจะมีการออกแบบมาเพื่อดึงดูดลูกค้าหน้าใหม่ให้เข้าสู่วงการบุหรี่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
บุหรี่ไฟฟ้าบรรจุไปด้วยนิโคติน และนิโคตินนี่แหละที่ทำให้คุณติดนิโคตินในบุหรี่ นิโคตินมันทำให้สุขภาพของคุณแย่ บุหรี่ไฟฟ้าคือขยะเคมีที่มีความอันตรายนะ Vandenbroucke กล่าว
เบลเยียมกลายเป็นชาติแรกในยุโรปที่มีการแบนขายบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่ 1 มกราคมที่ผ่านมา และยังมีการแบนหรือห้ามไม่ให้สูบบุหรี่ในที่กลางแจ้งด้วย เบลเยียมไม่ใช่ประเทศเดียวที่มีคำสั่งเช่นนี้ มิลาน อิตาลีก็ออกมาประกาศห้ามใช้บุหรี่ไฟฟ้าในที่กลางแจ้งวันเดียวกัน ประเทศอื่นๆ ที่เหลือในยุโรปก็เตรียมหารือเพื่อเข้มงวดกับเรื่องสูบบุหรี่มากขึ้น
ประเทศออสเตรเลียก็มีความเข้มงวดในการขายบุหรี่ไฟฟ้าทุกประเภทในร้านขายยาเมื่อปีที่ผ่านมา อังกฤษก็เตรียมห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้ครั้งเดียวในวันที่ 25 มิถุนายน ปี 2025 นี้เช่นกัน
สาเหตุที่ประเทศในยุโรปหลายแห่งออกมาเริ่มแบนและเข้มงวดการใช้บุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้นก็เพราะต้องการป้องกันนักสูบบุหรี่หน้าใหม่ที่เป็นคนรุ่นใหม่จะไหลเข้าสู่วงการนักสูบ และเบลเยียมยังตั้งเป้าอีกว่าจะเป็นประเทศแรกๆ ที่มีบทบาทด้านนี้ และจะลดจำนวนนักสูบบุหรี่หน้าใหม่ให้เหลือศูนย์รายหรือใกล้เคียงระดับศูนย์ภายในปี 2040 นี้ด้วย และจะเดินหน้าใช้ทุกมาตรการเพื่อสนับสนุนการไม่สูบบุหรี่และการทำให้การสูบบุหรี่เป็นเรื่องปกติเสียที
ปัจจุบัน ก็เริ่มมีการห้ามสูบบุหรี่ในสนามเด็กเล่น สนามกีฬา สวนสัตว์ สวนสนุกบ้างแล้ว อีกทั้งผลิตภัณฑ์ยาสูบทั้งหลายก็เริ่มขายไม่ได้ในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มีขนาด 400 ตารางเมตรขึ้นไป รวมทั้งห้ามวางจำหน่ายตั้งแต่ 1 เมษายนนี้
นอกจากนี้ ผลสำรวจจาก Belgian Health Interview ยังพบความแตกต่างของระดับการสูบบุหรี่ด้วย ในปี 2018 มีคนอายุ 15 ปีขึ้นไปสูบบุหรี่ทุกวัน 15.3% ลดลงจากปี 1997 จากสถิติเดิมอยู่ที่ 25.5% จากนั้นก็มีการสำรวจอีกในปี 2023 คาดว่าน่าจะมีจำนวนที่ลดลงเช่นกัน
ทั้งนี้ นักสูบทั้งหลายจะถูกปรับหากมีการสูบในที่สาธารณะหรือตามท้องถนนในเมือง ค่าปรับอยู่ที่ 40-240 ยูโร หรือประมาณ 1,400 บาทถึง 8,500 บาท คำสั่งดังกล่าวขยายจากปี 2021 ที่ห้ามสูบบุหรี่ในสวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น ป้ายรถเมล์และสถานที่กีฬา
ที่มา – The Guardian
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา