True ว่าไง? beIN เปิด Live Streaming 4 ช่องกีฬา เริ่ม 199 บาท/เดือน ก็ดู Premier League ได้

หากอยากรับชมฟุตบอล Premier League แบบถูกลิขสิทธิ์ในประเทศไทย ถ้าไม่ดูผ่านช่อง PPTV แบบฟรีๆ ก็ต้องเสียค่าสมาชิกให้ True แต่ตอนนี้มีเพิ่มอีก 1 วิธี เพราะ beIN เจ้าของลิขสิทธิ์ได้เปิดบริการ Live Streaming เองแล้ว

รูปแบบ Package ที่ beIN มีให้

ชูราคาเริ่มต้น 199 บาท/เดือน ดูได้ทุกลีกดัง

บริการ Live Streaming ของ beIN มีชื่อว่า beIN Sport Connect คาดว่าเพิ่งทำตลาดในประเทศไทยได้ไม่นาน อ้างอิงจากการเปิด Facebook Page ในชื่อ beIN Sport Thailand เมื่อต้นเดือนม.ค. ถือเป็นการเปิดเกมรุกแบบเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงของผู้ถือสิขสิทธิ์ Premier League ในประเทศไทยรายนี้ หลังจากเป็นเพียงผู้ขายสิทธิ์แพร่ภาพต่อให้กับกลุ่ม True และช่อง PPTV

โดยค่าสมาชิกของบริการนี้เริ่มต้นที่ 199 บาท/เดือน สามารถรับชมช่องรายการของ beIN ได้ 4 ช่อง แต่เป็นการรับชมแบบสดเท่านั้น ไม่สามารถดูย้อนหลังได้ ซึ่งตัวรายการทั้ง 4 ช่องไม่ได้แพร่ภาพแค่ฟุตบอล Premier League แต่ยังมีลีกอื่นๆ เช่น La liga, Serie A, League 1 และ Uefa Champion League รวมถึงรายการแข่งขันกีฬาทั้งจักรยาน, เทนนิส และมอเตอร์สปอร์ตอีกด้วย

รูปแบบการรับชมผ่าน Browser

ขณะเดียวกันตัวบริการ Live Streaming นี้ยังทำแคมเปญกระตุ้นยอดสมัครใช้งานก่อนปิดฤดูกาลฟุตบอล (Premier League ปิดฤดูกาลวันที่ 21 พ.ค.) ผ่านการเสนอราคา 399 บาท รับชมได้ถึง 31 ก.ค. แต่ต้องสมัครก่อนวันที่ 30 เม.ย. เท่านั้น ซึ่งการรับชมด้วยวิธีนี้ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถรับชมพร้อมกันได้ 2 อุปกรณ์ รองรับทั้งชมผ่านหน้า Browser บนคอมพิวเตอร์ และ Application บน iOS และ Android รวมถึงใช้ Chromecast ยิงขึ้นจอใหญ่ได้

ปลดแอกไม่ต้องพึ่งเน็ต True ก็ดูแท้ได้

แม้ PPTV จะเปิดให้รับชมการถ่ายทอดสดกีฬาผ่านทั้งช่องโทรทัศน์ปกติ และช่องทางออนไลน์ แต่หากต้องการรับชมครบทุกแมตช์การแข่งขัน ผู้บริโภคก็ต้องไปพึ่งแพลตฟอร์ม True โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 29 บาท/เดือน ผ่านการรับชมด้วย True ID ที่เป็น Application บนโทรศัพท์มือถือ แต่การรับชมนั้นต้องอาศัยเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของ True เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น TrueMove H หรือ True Online ส่วนถ้าอยากรับชมผ่านกล่อง True Vision ก็ต้องจ่าย 199-399 บาท/เดือน

ทั้งนี้หลังจากทดลองสมัครใช้บริการ beIN Sport Connect พบว่า สัญญาณภาพไม่คมชัดขนาด Full HD แต่ถือว่าได้อรรถรสในการรับชมประมาณหนึ่ง รวมถึงเสียงพากย์ในการแข่งขันทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ อาจไม่ถูกใจผู้ชมที่ชื่นชอบการพากย์ภาษาไทย ส่วนเรื่องรูปแบบการใช้งานก็ค่อนข้างง่าย เพียงกดไปที่หมายเลขช่องก็จะรับชมรายการใหม่ได้ทันที แต่ทั้งหมดเป็น Live Streaming คล้ายกับการรับชมช่องโทรทัศน์ปกติ

สรุป

ถือเป็นการเปิดเกมรุกอย่างชัดเจนของ beIN และได้รายได้เข้ามาโดยตรงอีกด้วย แต่การลุกขึ้นมาทำตลาด Live Streaming น่าจะสร้างความชัดเจนของธุรกิจช่องรายการที่จะพึ่งพาแต่โทรทัศน์บอกรับสมาชิกไม่ได้ ที่สำคัญถึงลดราคาลงมาเหลือ 199 บาท/เดือน ก็ต้องรอดูว่าจะเปลี่ยนพฤติกรรมคนไทยที่ชื่นชอบการละเมิดลิขสิทธิ์ได้หรือไม่

อ้างอิง // beIN

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา