เรียกได้ว่าต้องติดตามกันเป็นมหากาพย์เลยทีเดียวกับการล่มสลายของวงการค้าปลีก ล่าสุด Bebe ค้าปลีกเครื่องแต่งกาย ที่มียอดขายลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีมานี้ ประกาศชัดแล้วว่า จะปิดร้านค้าทั้งหมดภายในเดือนพฤษภาคมปีนี้ และยังไม่มีแผนว่าจะทำอย่างไรต่อกับธุรกิจตนเอง
หน้าร้านต้านไม่ไหว ถ้าจะอยู่ต่อไป ต้องออนไลน์เท่านั้น
หลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว (เมษายน 2017) Bebe ร้านค้าปลีกเครื่องแต่งกาย ประกาศไว้ว่ากำลังสำรวจกลยุทธ์ทางเลือกของธุรกิจหลังจากสูญเสียรายได้มาต่อเนื่องกว่า 4 ปี แต่ ณ วันนี้ Bebe ประกาศอย่างชัดเจนเลยว่า จะปิดร้านค้าของตนทั้งหมดภายในเดือนพฤษภาคมปีนี้
Bebe จะปิดร้านค้าทั้งหมดของตนที่มีอยู่กว่า 180 แห่ง และยังไม่มีแผนในอนาคตว่าจะดำเนินธุรกิจอย่างไรต่อไป แต่คาดว่าน่าจะไปลุยออนไลน์เต็มตัว
Bloomberg รายงานเมื่อเดือนที่แล้วว่า Bebe วางแผนที่จะโกออนไลน์เพื่อหลีกเลี่ยงการต้องยื่นล้มละลาย แต่วันนี้เห็นชัดแล้วว่า ขั้นแรกคือต้องปิดรานค้าทั้งหมดเพื่อยืดเวลาออกไปก่อน
ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมานี้ ค้าปลีกเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายหลายรายล้มละลายกันไปแล้วมากมาย เช่น Aeropostale และ The Limited ที่มาสามารถแข่งขันกับแบรนด์อย่าง Amazon.com Inc หรือ H&M และ Zara ที่จับตลาดแฟชั่นกระแสได้
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้ วิเคราะห์ว่า จะมีค้าปลีกเสื้อผ้าอีกหลายรายยื่นล้มละลายในปีนี้อย่างแน่นอน
Anthony Michael Sabino ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทด้านกฎหมายของ Sabino & Sabino P.C. บอกว่า “เราต่างเป็นประจักษ์พยานของการเปลี่ยนยุคการค้าขายในห้างสรรพสินค้า มาสู่ยุคของการค้าขายบนโลกออนไลน์ และที่แน่นอนคือ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะรอด”
Bebe คาดไว้ว่า ผลจากการไล่ปิดร้านทั้งหมดในครั้งนี้จะทำต้องรับมือกับ Impairment Charge (การด้อยค่าของสินทรัพย์) ประมาณ 20 ล้านเหรียญ โดยตัวเลขจะไปรวมในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้
ยังไม่หมดแค่นั้น Bebe ยังจะต้องจ่ายเงินให้กับที่ปรึกษาคือ B. Riley & Co และ Tiger Capital Group LLC เป็นราคา 550,000 เหรียญ กับอีก 15% ของรายได้ทั้งหมดจากการขายสินค้าในร้านอีกด้วย
ที่มา – Reuters
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา