เปิดพอร์ท Beacon VC โชว์ 11 สตาร์ทอัพตัวท็อปจากงาน Innovation Glow – Startups Showcase

จากงาน Innovation Glow – Startups Showcase เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Beacon VC ได้เปิดตัวสตาร์ทอัพในพอร์ทที่ประสบความสำเร็จ 11 รายที่มีคุณสมบัติที่พรั่งพร้อมไปด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี แนวคิดในการทำธุรกิจ พร้อมกับการพบปะลูกค้าชั้นนำระดับประเทศ

Beacon VC หรือ Beacon Venture Capital (บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล) คือหน่วยงานสำหรับการร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพที่น่าสนใจ มีศักยภาพทั้งด้านการเงินและเทคโนโลยี โดยมีธนาคารกสิกรไทยถือหุ้น 100% และมีวงเงินที่ได้รับการจัดสรรเพื่อลงทุนกว่าหมื่นล้านบาท ซึ่งก็มีการลงทุน 2 แบบด้วยกันมีทั้งการลงทุนโดยตรงทั้งสตาร์ทอัพในไทยและต่างประเทศ และมีการลงทุนผ่านกองทุนเงินร่วมลงทุนด้วย

ในงานนี้ ธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด ได้กล่าวแสดงความขอบคุณผู้มาร่วมงานทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และผู้บริหารที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทั้ง SET, MAI และ Live Platform ที่มาร่วมงานรวมทั้งลูกค้าและนักธุรกิจทุกท่าน

Beacon VC เป็นบริษัทเงินร่วมทุนของธนาคารกสิกรไทย เปิดมาตั้งแต่ปี 2016 ตอนนี้เข้าปีที่ 8 แล้ว และมีเม็ดเงินกว่า 255 ล้านเหรียญสหรัฐหรือกว่าหมื่นล้านบาท ลงทุนแล้วกว่า 20 บริษัท วันนี้ก็ถือเป็นงาน showcase ที่ คัดสรรสตาร์ทอัพในพอร์ทมานำเสนอนวัตกรรมและโซลูชั่น มาให้ผู้ร่วมงานเพื่ออัพเดทและสามารถนำไปต่อยอดให้กับกลุ่มธุรกิจที่ทำให้ได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

โดย 11 บริษัทสตาร์ทอัพตัวท็อปจาก Portfolio ของ Beacon VC มีลักษณะธุรกิจที่น่าสนใจ ประกอบด้วย Buzzebees, Cryptomind, FlowAccount, FWX, Horganice, HumanSoft, ION ENERGY, Jitta, LINE MAN Wongnai, Primo และ T2P

1. BUZZEBEES ผู้ให้บริการระบบ CRM & Loyalty และ e-Commerce Service ครบวงจร เป็นผู้นำอันดับ 1 ด้าน CRM & Digital Engagement Platform ในประเทศไทย เป็นตัวกลางที่เชื่อมต่อแบรนด์ต่างๆ ให้สามารถเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกัน

วันนี้ไม่ใช่แค่บริษัทที่เป็นผู้นำด้าน Loyalty Platform เท่านั้น แต่ยังเป็นธุรกิจที่สร้างโครงสร้างพื้นฐานในโลกดิจิทัลผ่าน 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจพัฒนาแพลตฟอร์มบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM & Loyalty Platform) จัดหาของรางวัลและสิทธิพิเศษ (Rewards & Privileges Management) ธุรกิจบริการอีคอมเมิร์ซอย่างครบวงจร (E-Commerce Service) และธุรกิจบริการระบบจัดการร้านค้าและการรับชำระเงิน (Retail Solution & E-Payment) โดยทุกบริการครอบคลุมใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และกัมพูชา ล่าสุดเปิดตัวธุรกิจใหม่ด้าน Affiliate Marketing ชื่อว่า Mediabuzz ช่วยแบรนด์สร้างยอดขายผ่าน Influencer Marketing ที่มีการใช้ Data และ AI ของบริษัทเข้ามาสร้างโมเดลการทำโฆษณา และสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดทั่วไป

2. Cryptomind สตาร์ทอัพรายนี้คือ One Stop Solution ด้านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ Digital Asset Fund Manager รายแรกภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. มีความตั้งใจที่จะสร้างคอมมูนิตี้สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นสะพานเชื่อมทุกคนสู่โลก Web3 แบบครบทุกองค์ประกอบใน Ecosystem

ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ คำปรึกษา รวมไปถึงการบริหารจัดการเงินลงทุนสำหรับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ทั้งด้านโปรดักต์, โทเคน, การระดมทุน และการตลาด โดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูง พร้อมทั้งช่วยออกแบบและให้คำปรึกษา เพื่อให้ Web 3 Founders สามารถปั้น Unicorn ได้สำเร็จ พิสูจน์ได้จาก โปรเจ็กต์ต่าง ๆ ที่บริษัทให้คำแนะนำดูแล ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ารวมมากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

3. FlowAccount ผู้นำด้านการบริการโปรแกรมบัญชีออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ SME เริ่มต้นธุรกิจในปี 2015 ด้วยการออกแบบโปรแกรมบัญชีที่ใช้งานง่าย ทำงานผ่านระบบคลาวด์ ช่วยออกเอกสารธุรกิจ พร้อมบันทึกบัญชีให้อัตโนมัติ ทำให้ผู้ประกอบการใช้งานได้ด้วยตัวเอง สะดวกต่อการทำธุรกิจ สร้างความแตกต่างจากโปรแกรมบัญชีในท้องตลาดในเวลานั้น ที่ส่วนใหญ่เป็นโปรแกรมออฟไลน์ที่ต้องติดตั้งลงคอมพิวเตอร์ มีการใช้งานที่ซับซ้อน และมีราคาสูง

ต่อมาได้เพิ่มฟังก์ชั่นโปรแกรมเงินเดือนออนไลน์ FlowPayroll และโปรแกรมสแกนบิลและใบเสร็จ AutoKey ให้ใช้งานได้ในแพลตฟอร์มเดียวกัน ช่วยสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ประกอบการในการจัดการข้อมูลและบริหารธุรกิจได้ในระบบเดียว ปัจจุบันมีลูกค้าบริษัทและพนักงานฟรีแลนซ์มากกว่า 120,000 ราย และมีพันธมิตรด้านบัญชีกว่า 4,000 บริษัท

4. FWX แพลตฟอร์มซื้อขายอนุพันธ์สินทรัพย์ดิจิทัลแบบไร้ศูนย์กลางหรือ DeFi มีจุดยืนในการทำแพลตฟอร์ม DeFi ให้ปลอดภัย เข้าถึงง่ายและยั่งยืน และยังสร้างระบบการให้กู้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัล (LBP) โดยใช้โมเดลการแจกผลตอบแทนกับผู้ใช้งานในแบบ Real Yield ซึ่งเงินที่นำมาเป็นผลตอบแทนจะมาจากผลกำไรจาก Business Model ของแพลตฟอร์ม

ล่าสุดเปิดตัวฟีเจอร์ Permissionless Listing ช่วยให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถสร้างและจัดการโทเคนของตัวเองพร้อมกับเปิดให้คนอื่นๆ ซื้อขายแบบ Leverage ที่ทำให้อำนาจซื้อเพิ่มขึ้นด้วยการวางเงินเพื่อเป็นหลักประกันในการ Leverage เช่น ถ้าอัตราส่วนในการทำ Leverage อยู่ที่ 10 บาท ต่อ 100 บาท ผู้ที่ต้องการทำ Leverage จะต้องวางเงินหลักประกันไว้ 10 บาท เพื่อจะทำ Leverage ได้ 100 บาท เป็นต้น

รวมถึงบริการ Lending ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต และผู้ที่ต้องการ Listing เหรียญของตัวเองเข้าไปใน FWX ก็สามารถเข้ามาสร้างโทเคนได้ โดยโทเคนจำเป็นต้องถูก List อยู่ใน Trader Joe, Pangolindex หรือ FWX Swap

5. Horganice ระบบการจัดการหอพักสัญาชาติไทย Series A ที่เข้ามาทรานส์ฟอร์มธุรกิจหอพัก ในฐานะตัวกลางในการเชื่อมต่อสื่อสารระหว่างเจ้าของหอพัก และผู้เช่า ให้มีความสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยฟีเจอร์มากมาย อาทิ การรับบิลค่าเช่าผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน โอนเงินค่าเช่าไปยังบัญชีธนาคารของเจ้าของหอ แจ้งซ่อม แจ้งทำความสะอาดโดยพาร์ทเนอร์กับ Startup อย่าง Beneat หรือแจ้งย้ายออกไปยังเจ้าของที่หรือเจ้าของหอได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงทางเจ้าของหอพัก หรือเจ้าหน้าที่ดูแลหน้างานสามารถแจ้งข่าวสารข้อความไปยังผู้เช่าได้อย่างรวดเร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนทางด้านเวลา รวมถึงทรัพยากรอื่นๆ ให้กับเจ้าของหอได้อีกด้วย

สำหรับ Feature ที่ช่วยให้เจ้าของหอบริหารจัดการห้อง เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลหอพัก โดยเริ่มจากการทำให้เป็นระบบดิจิทัล แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้

    1. Function Management เริ่มตั้งแต่ผู้เช่าสามารถทำสัญญาเช่าและแจ้งซ่อมแซมส่วนต่างๆ ในห้องพักได้
    2. การจดมิเตอร์ เราร่วมพัฒนากับพาร์ทเนอร์ เป็น Digital Miter ที่ On Cloud สามารถดึงค่ามิเตอร์ตามมาตรฐานการไฟฟ้า การประปา เข้าสู่ระบบได้ หลังจากดึงข้อมูลแล้ว ระบบจะสามารถคำนวณค่าเช่าและวางบิลค่าเช่าไปยังผู้เช่าผ่านแอปพลิเคชัน
    3. ระบบ Payment ปกติคนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าต้องรอเก็บเงิน แต่ Horganice ต่อระบบ Payment กับ KBank คนเช่าจ่ายเงินเข้าหอพัก ถ้าโอนเงินเข้าแบบแนบสลิป ก็มี Slip Vertified จาก KBank มี QR Code ของ KBank ที่ช่วยทำให้ชำระเงินได้ง่ายขึ้น หลังจากจ่ายเงินแล้ว เจ้าของหอพักไม่ต้องตรวจสอบ เพราะได้ทำระบบหลังบ้านด้วยการทำ Auto Reconcile เป็นการบันทึกรายการกระทบยอดเดบิตและเครดิตเพื่อยืนยันความถูกต้องของยอดคงเหลือในบัญชี ลดเวลา เพิ่มประสิทธิภาพในการชำระเงิน
    4. Service ต่างๆ ที่ช่วยเจ้าของหอ เช่น Service Accounting ถ้าหอที่เป็นนิติบุคคล กว่าจะปิดงบการเงินได้ ต้องรอถึงสิ้นปี จึงทำการต่อระบบรายรับ-รายจ่าย เข้าแพลตฟอร์มบัญชีเพื่อช่วยหอพักปิดงบได้ทุกเดือนเพื่อให้รู้ว่าพอจะสิ้นปี ควรลงทุนอะไร ควรซื้ออะไรเพื่อลดหย่อนภาษีได้

ปัจจุบัน Horganice สามารถช่วยเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้มากกว่า 20,000 ราย ดูแลห้องพักกว่า 1,000,000 ห้อง และจัดการค่าเช่ามากกว่าปีละ 10,000 ล้านบาทต่อปี วันนี้เติบโตไปสู่การเป็น PropTechอันดับต้นๆ ของประเทศไทย รุกธุรกิจตลาดสดด้วย Myket Pro แพลตฟอร์มบริหารจัดการธุรกิจตลาด เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมตลาดสดและตลาดนัด ซึ่งเป็นอุตสาหรรมที่มีขนาดใหญ่มีเม็ดเงินไหลรวมกันอยู่มหาศาล

6. HumanSoft All-in-one HR Platform ผู้พัฒนาด้านโปรแกรม HR และคำนวณเงินเดือนบนคลาวด์ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน โดย HumanSoft มีจุดเด่นคือช่วยลดต้นทุนและเวลาในการบริหารงานของฝ่ายบุคคล (HR) เพื่อให้ HR สามารถมุ่งเน้นในการพัฒนาบุคลากรได้มากขึ้น

โดยโปรแกรม HR HumanSoft สามารถจัดการภาษี ประกันสังคม คำนวณเงินเดือนอัตโนมัติ และมีระบบลงเวลาการทำงานที่ยืดหยุ่น พนักงานสามารถเลือกลงเวลาได้หลากหลายรูปแบบ ที่สำคัญยังครอบคลุมเรื่องการจัดการด้านบุคคลอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น การจัดกะการทำงาน การยื่นเอกสาร-อนุมัติเอกสาร การคำนวณค่าเบี้ยขยันและเงินพิเศษ รวบรวมข้อมูลเพื่อคำนวณเงินเดือนอัตโนมัติ ออกเอกสารเกี่ยวกับภาษีและสลิปเงินเดือน รวมถึงการจัดการภาระหนี้สินและสินทรัพย์

นอกจากนี้ HumanSoft ยังมีระบบประเมิน KPI รายงานสรุปสำหรับผู้บริหาร การประเมินพนักงาน จดหมายเตือน และการฝึกอบรมที่ช่วยลดความซับซ้อนในการบริหารงานบุคคล โดยจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบและเพิ่มการมีส่วนร่วมของพนักงาน ด้วยระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มั่นคงและปลอดภัย ปัจจุบัน HumanSoft มีลูกค้ากว่า 12,500 บริษัท ใช้งานอยู่ โดยมีพนักงานในระบบกว่า 350,000 คน บริหารเงินเดือนมูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 200% ต่อปี

7. ION ENERGY สตาร์ทอัพพลังงานโซลาร์สัญชาติไทย สตาร์ทอัปไทยรายแรกที่ Beacon VC ได้ลงทุนผ่าน Beacon Impact Fund ผู้ให้บริการติดตั้ง บริหารพลังงาน และพัฒนาแพลตฟอร์มพลังงานสะอาดจากโซล่าร์เทคโนโลยีครบวงจรเพื่อให้ลูกค้าทั้งผู้อยู่อาศัย รายย่อย และธุรกิจ สามารถเข้าถึงพลังงานสะอาดแบบครบวงจรในราคาที่เหมาะสม รองรับ Solar Energy Ecosystem ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

โดย ION ENERGY นำเสนอโซลูชั่นให้บริการทั้งแบบ EPC ในรูปแบบรับเหมา ออกแบบ จัดหา ติดตั้งและบำรุงรักษาระบบโซล่าร์ให้กับลูกค้าแบบครบวงจร และ Private PPA เป็นการลงทุนติดตั้งโซล่าร์โซลูชั่นโดย ION ไม่คิดค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าธุรกิจ ผ่านสัญญาซื้อขายไฟฟ้า โดยลูกค้าจะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นแค่ในส่วนของค่าไฟฟ้าที่ใช้จริงในแต่ละเดือนเท่านั้น ซึ่งมีราคาที่ต่ำกว่าการใช้ไฟฟ้าจากการไฟฟ้าขั้นต่ำประมาณ 20-50% ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าเอสเอ็มอีและองค์กรขนาดใหญ่ ปัจจุบันไอออนเป็นผู้ติดตั้งโซลาร์สำหรับที่อยู่อาศัยรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

8. Jitta สตาร์ทอัพด้าน WealthTech ที่คิดค้นนวัตกรรมการเงินการลงทุนให้คนไทยเข้าถึงการลงทุนมากขึ้นผ่านเทคโนโลยี AI เข้ามาดูแลการลงทุนแบบ 100% และพัฒนาแพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้นครอบคลุมแทบทุกตลาดหุ้นทั่วโลก เพื่อการลงทุนเน้นคุณค่า ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าช่วยนักลงทุนสร้างผลตอบแทนชนะตลาดในระยะยาว

ล่าสุดเปิดตัว Jitta Card โดยให้ทดสอบใช้งานแล้วในเวอร์ชั่น Beta เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยจ่าย-ออม-ลงทุน ใช้เทคโนโลยีมาออกแบบการลงทุนขนาดเล็ก (Micro Investment) ช่วยให้ทุกการใช้จ่ายมีเงินออมและส่งไปลงทุนอัตโนมัติ

9. LINE MAN Wongnai เทคสตาร์ทอัพที่ Unicorn สัญชาติไทยที่มีมูลค่าบริษัทมากกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐ โดย Beacon VC ได้เริ่มการลงทุนในบริษัท Foodstory คู่ค้าสำคัญของ LINE MAN WONGNAI ก่อนที่จะถูกซื้อกิจการมาอยู่ภายใต้ LINE MAN Wongnai ในปี 2020

เริ่มจากการเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนดีมานด์แบบครบวงจร ครอบคลุมการส่งอาหารและ สินค้า เมสเซนเจอร์ และเรียกรถรับ-ส่ง ปัจจุบันให้บริการฟู้ดดิลิเวอรีและเมสเซนเจอร์ครอบคลุมพื้นที่ 77 จังหวัดทั่วไทย และมีร้านอาหารบนแพลตฟอร์มกว่า 500,000 ร้าน ไรเดอร์ 100,000 ราย ไดรเวอร์ 25,000 คัน รวมทั้งมี Wongnai POS ระบบจัดการร้านอาหารและการขายผ่านดิลิเวอรี่มากกว่า 55,000 ร้าน

ปัจจุบัน LINE MAN Wongnai ได้เติบโตจนกลายเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำของไทยที่ช่วยยกระดับความเป็นอยู่และธุรกิจท้องถิ่นทั่วไทยให้ดีขึ้นด้วยระบบดิจิทัล พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายในปีหน้าเข้า IPO ใน SET ซึ่งจะทำให้ LINE MAN Wongnai เป็นเทคสตาร์ทอัพที่มีมูลค่ามากที่สุดในตลาดหลักทรัพย์

10. Primo ผู้ให้บริการ MarTech ครบวงจรสำหรับองค์กรและธุรกิจขนาดใหญ่ โดยมีผลิตภัณฑ์และบริการได้แก่

    1. Enterprise Loyalty Platform แพลตฟอร์มสมาชิกของ PRIMO ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจสร้างและบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านฟีเจอร์ที่ครอบคลุม เช่น การจัดการระบบสะสมคะแนน การแบ่งกลุ่มลูกค้าตามพฤติกรรม และการแจกจ่ายรางวัลแบบหลายช่องทาง
    2. Digital Product Development Service ซึ่งเป็นบริการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดิจิทัลทั้งในรูปแบบของ Mobile Application และ Web Application โดยครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษา การออกแบบ UX/UI การพัฒนาซอฟต์แวร์ ตลอดจนการทดสอบระบบ เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์จะตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและลูกค้าได้อย่างแท้จริง PRIMO ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ Central The 1, KBank, M150, Nescafe, BDMS และ Tokio Marine Insurance เป็นต้น

11. T2P FinTech ชั้นนำด้านโซลูชันทางการเงินแบบครบวงจร สำหรับลูกค้าองค์กรธุรกิจแบบ B2B2C ก่อตั้งในปี 2011 โดยเป็นผู้ผลักดันการเงินรูปแบบใหม่ในยุคดิจิตัล สร้างโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงระบบการเงินได้ T2P ได้กลายมาเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศที่ให้บริการทั้งกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์และระบบรับชำระเงิน นอกจากนี้ยังมีบริษัทในเครือที่ให้บริการระบบ loyalty ให้กับลูกค้าองค์กรทั้งในและต่างประเทศ โดยอยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และได้รับใบอนุญาต e-Money รวมไปถึงใบอนุญาตระบบการชำระเงิน ซึ่ง T2P นั้นมีทีมงานที่มีประสบการณ์การพัฒนา e-Wallet แบบ B2B2C ให้ตอบโจทย์การทำธุรกรรมการเงิน โดยมีบริการและผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายปัจจุบันมีผู้ใช้งานในแพลตฟอร์ม 2.2 ล้านคนต่อเดือน ยอดการทำธุรกรรม 4.5 ล้าน Transaction ต่อเดือน คิดเป็นมูลค่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ

สรุป
จากสตาร์ทอัพทั้งหมด 11 แห่งที่อยู่ภายใต้พอร์ทของ Beacon VC จะเห็นได้ว่าเป็นธุรกิจที่หลากหลาย มีการให้บริการที่ตอบโจทย์ทั้งฝั่งผู้ประกอบการรายย่อยและภาคธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งก็มีภาครัฐร่วมอยู่ด้วย

มีทั้งแพลตฟอร์มที่ให้บริการระบบการให้บริหารด้านการตลาด ระบบการบริหารจัดการเงินลงทุน ระบบที่ช่วยสนับสนุนงานให้แก่ผู้ประกอบการทางธุรกิจรายย่อยให้เติบโตได้

ตลอดจนแพลตฟอร์มออนดีมานด์แบบครบวงจร ครอบคลุมการส่งอาหารและสินค้า เมสเซนเจอร์ และเรียกรถรับ-ส่ง ไปจนถึงการให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งก็น่าสนใจว่าอนาคต Beacon VC จะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยทำให้สตาร์ทอัพในไทยเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและสยายปีกไปยังธุรกิจใหม่ๆ ให้ก้าวหน้าต่อไปได้อีก

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Branded Content เป็นบทความที่ได้รับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์