ธนาคารกรุงเทพ เปิดกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 67 แตะ 10,524 ล้านบาทโต 3.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยผลการดำเนินงานใน ไตรมาส 1 ปี 2567 พบว่า มีกำไรสุทธิที่ 10,524 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น 18.7% จากไตรมาส 4 ปี 66) มาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น 11.1% โดยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 3.06% ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 19.1% จากกาไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วดั มูลค่าด้วยยมูลค่ายุติธรรมผ่านกาไรหรือขาดทุน (FVTPL) ซึ่งเป็นไปตามสภาวะตลาด และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจากธุรกิจหลักทรัพย์ลดลงตามภาวะตลาด 

ส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ใน ไตรมาส 1 ปี 2567 อยู่ที่ 93,949 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.3% จากสิ้นปีก่อนหน้า โดยอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) อยู่ที่ 3.0% เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2566 ซึ่งทางธนาคารพิจารณาตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 8,582 ล้านบาท ภายใต้หลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า (ณ สิ้นเดือน มี.ค. 67 มีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตฯ รวม 274,071 ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดข้ึนต่อเงินให้สินเชื่อรวมที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต เท่ากับ 291.7%

ในด้านสินเชื่อ ณ สิ้นเดือน มี.ค. 67 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2,736,427 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% จากสิ้นปีก่อน มาจากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่และสินเชื่อลูกค้ากิจการต่างประเทศ 

ภาพจาก Shutterstock

ทั้งนี้ ในภาพรวมธนาคารกรุงเทพยังมองว่าปี 2567 เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่อง เพราะมีแรงส่งจากภาคบริการตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น แต่การส่งออกไทยยังชะลอตัวตามอุปสงค์ประเทศคู่ค้าที่อ่อนตัวลง อีกทั้งการใช้จ่ายภาครัฐที่ยังหดตัว

ในระยะต่อไปมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ผลกระทบจากธนาคารกลางหลัก ที่ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ 

และเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวชะลอลง ตลอดจนปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลก และการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี โดยธนาคารกรุงเทพพร้อมสนับสนุนการการลงทุนใหม่ในกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อและกลุ่มลูกค้าให้ได้ประโยชน์จากโอกาสในการขยายกิจการไปยังต่างประเทศ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

ผลประกอบการของธนาคารฯ ไตรมาส 1 ปี 2567 (ณ 31 มี.ค. 67) มีจุดสำคัญดังนี้

  • กำไรสุทธิอยู่ที่ 10,524 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • รายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 33,422 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
    (ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ: NIM อยู่ที่ 3.06% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 2.84%)
  • รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยรวมอยู่ที่ 8,260 ล้านบาท ลดลง 19.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อ
  • ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน อยู่ที่ 19,618 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) อยู่ที่ 93,949 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.3% จากสิ้นปีก่อนหน้า โดยอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) อยู่ที่ 3.0% เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2566 ที่อยู่ระดับ 2.7%

ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อย ร้อยละ 16.3 และร้อยละ 15.6 ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด 

ที่มา ธนาคารกรุงเทพ, SET

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา