Barclays วิเคราะห์ การเมือง เศรษฐกิจ สังคม หลัง COVID-19 โลกจะเปลี่ยนไปอีกแบบ

บทวิเคราะห์จาก Barclays สถาบันการเงินจากอังกฤษชี้ว่า การเมือง เศรษฐกิจ สังคม หลังจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 นั้นจะเปลี่ยนไปอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน

Leeds UK
ภาพจาก Unsplash

Barclays สถาบันการเงินจากอังกฤษ ได้ออกบทวิเคราะห์เศรษฐกิจมองว่าเศรษฐกิจโลกหลังจาก COVID-19 จะเปลี่ยนกระบวนทัศน์ (Paradigm) ไปอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการเจรจาการค้าของหลายๆ ประเทศหลังจากนี้ รูปแบบการพักอาศัยและการใช้ชีวิต รวมไปถึงความขัดแย้งครั้งใหม่ของสหรัฐอเมริกาและจีนจากเรื่องของการค้าไปสู่สงครามเย็นรอบใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น

ความร่วมมือระหว่างประเทศที่เปลี่ยนไป

เรื่องสำคัญที่ Barclays เน้นคือเรื่องของความร่วมมือระหว่างประเทศหลัง COVID-19 ดูได้จากการเจรจาในระดับพหุภาคีที่มีผู้เข้าร่วมเจราจามากกว่า 2 ประเทศหมดความสำคัญลงไปมากในช่วงที่ผ่านมา โดย Barclays ชี้ให้เห็นการประชุมของสหภาพยุโรป (EU) ในช่วงที่ผ่านมาว่า COVID-19 ส่งผลทำให้กลุ่มประเทศใน EU แน่นแฟ้นมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ เช่น ประเทศต่างๆ ไฟเขียวให้จัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจ 750,000 ล้านยูโร

ตรงกันข้ามกับกลุ่ม G20 ที่เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่กลับโดนบดบังรัศมีจากความร่วมมือในภูมิภาคต่างๆ มากขึ้น อย่างไรก็ดี Barclays เน้นว่าสาเหตุสำคัญคือ COVID-19 นั้นไม่ใช่วิกฤติทางการเงิน ซึ่งลดบทบาทของ G20 ลง แต่บทบาทของ G20 จะสำคัญในด้านอื่นๆ เช่น ความร่วมมือด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศที่ยากจน หรือการกระจายวัคซีนไปยังประเทศอื่นๆ

ขณะที่เวทีระดับโลกอย่างองค์การการค้าโลก (WTO) กลับกลายเป็นองค์กรที่กำลังจะหมดคุณค่าลง โดยเฉพาะการเป็นเวทีแก้ไขปัญหาด้านการค้าระหว่างประเทศ และตอนนี้ WTO กำลังหาผู้นำองค์กรคนใหม่ที่จะมาฟื้นความเชื่อมั่นของประเทศต่างๆ ยิ่งทำให้ต้องใช้เวลาเพิ่มมากขึ้นไปอีก

Donald Trump Xi Jinping
ภาพจาก Flickr ของทำเนียบขาว

ความขัดแย้งสหรัฐ-จีน

Barclays ยังชี้ให้เห็นว่าการเจรจาในระดับพหุภาคีที่หมดความสำคัญลงไปนั้นมาจากสหรัฐอเมริกาเอง ซึ่งสาเหตุสำคัญคือความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ-จีน เองจากสงครามการค้าที่สหรัฐเองไม่พอใจประเทศจีนมีดุลการค้ามากเกินควรจนลามไปสู่เรื่อง การขโมยเทคโนโลยี ฮ่องกง ทะเลจีนใต้ รวมถึง COVID-19 และล่าสุดความตึงเครียดกลับเพิ่มมากขึ้นไปอีกจากทั้ง 2 มหาอำนาจได้สั่งปิดสถานกงสุลของกันและกัน เพื่อตอบโต้อีกฝ่าย

ขณะเดียวกันผลกระทบนี้ ยังสร้างผลกระทบต่อประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความหวังที่ทั้ง 2 มหาอำนาจจะหาทางลงจากการเจรจาการค้าฉบับแรกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา กลับกลายเป็นว่าความขัดแย้งลุกลามบานปลายออกไปจนเพิ่มความน่ากลัวว่าสหรัฐและจีนเองกำลังจะสร้างสิ่งที่เรียกว่า “สงครามเย็น” ครั้งใหม่ ขณะที่ประเทศอื่นๆ กลายเป็นว่าต้องปรับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศนี้ใหม่อีกครั้ง และอาจต้องมีการจับกลุ่มประเทศกันใหม่ เพื่อที่จะสร้างอำนาจต่อรองด้วย

Chinese People COVID-19 Check point
ภาพจาก Shutterstock

โครงสร้างสังคมกำลังจะเปลี่ยนไป

ประเด็นสำคัญเรื่องสุดท้ายที่สถาบันการเงินจากอังกฤษรายนี้ชี้คือเรื่องโครงสร้างสภาพสังคมที่กำลังจะเปลี่ยนไป โดย Barclays ชี้ว่ารายงานข้อมูลที่มาจากสมาคมผู้สร้างบ้านสหรัฐฯ (NAHB) ตัวเลขของความต้องการบ้านหลังใหม่ตามพื้นที่ในชนบทและเมืองที่มีประชากรหนาแน่นน้อยกว่าเมืองใหญ่ๆ มีตัวเลขที่ดีขึ้นอย่างมาก สาเหตุสำคัญมาจากในช่วง COVID-19 เปลี่ยนวิธีการทำงานไปอย่างไม่เคยมีมาก่อนคือ พนักงานบริษัทหลายๆ แห่งสามารถที่จะทำงานที่บ้านได้ (บางแห่งยังสามารถทำงานได้ตลอดไป)

รูปแบบดังกล่าวในข้างต้นทำให้ Barclays มองว่าแนวโน้มการกระจุกตัวตามเมืองใหญ่ๆ อาจหยุดชะงักลงจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และอาจทำให้โครงสร้างของเศรษฐกิจโลกหลังจากนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก และยังรวมไปถึงเรื่องอื่นๆ เช่น การเคลื่อนย้ายของผู้คน การท่องเที่ยว ฯลฯ

นอกจากนี้ Barclays มองว่านโยบายการเงินจากธนาคารกลางของแต่ละประเทศ รวมไปถึงนโยบายทางการคลังของรัฐบาลต่างๆ ก็จะเปลี่ยนแปลงไปหลังจาก COVID-19 นี้เช่นกัน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Content Writer ที่สนใจในเรื่องของตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม TMT (Technology, Media, Telecom) การควบรวมกิจการ (M&A) นโยบายทางเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยทางธุรกิจที่น่าสนใจ