ไม่อยากเป็นแค่ ‘มาสคอต’ ‘บาร์บีกอน’ ขอเป็น ‘ก้อนเพื่อนรัก’ ปรับแบรนด์ สร้างเพจแยก ทำหนังสือเป็นของตัวเอง

อะไรเอ่ยตัวสีเขียว ยืนสองขา เหมือนจะเป็นจระเข้ แต่ไม่ใช่

คำตอบคือ ‘บาร์บีกอน’ หรือ ‘ก้อน’ นั่นเอง และทุกคนรู้ไหมว่าตอนนี้น้องไม่ได้เป็นแค่มาสคอตหน้า ‘บาร์บีคิวพลาซ่า’ แล้วนะ เพราะก้อนกำลังจะมีแบรนด์เป็นของตนเอง

บาร์บีกอน

‘บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด’ ผู้อยู่เบื้องหลังบาร์บีคิวพลาซ่า ประกาศยกระดับบาร์บีกอนสู่การเป็น ‘Best Friend Brand’ ให้บาร์บีกอนเป็นเพื่อนที่ส่งต่อสปิริต ‘ทำโมเมนต์นี้ให้ดีที่สุด’ ผ่านรูปแบบการทำคอนเทนต์ต่างๆ

‘ชาตยา สุพรรณพงศ์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท Food Passion กล่าวว่า บาร์บีคิวพลาซ่าสร้างบาร์บีกอนจนประสบความสำเร็จเป็นเวลากว่า 30 ปี ทำให้บริษัทเห็นศักยภาพของน้องที่เป็นได้มากกว่ามาสคอต และอยากพาเขาไปอีกขั้น ให้ก้อนกลายเป็นเพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุข พร้อมเติบโตไปกับคนไทยทุกคน

บาร์บีกอนมีเพจและหนังสือเป็นของตนเองแล้ว

บาร์บีกอน

ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ หลายคนอาจเห็นแล้วว่าบาร์บีกอนเริ่มมีบทบาทและอุปนิสัยใจคอเป็นของตนเองมากขึ้น แต่ในปี 2024 Food Passion ได้ยกระดับน้องก้อนให้เป็นมากกว่านั้น ผ่านการเปิดตัวนิทานธุรกิจ (Business Fable) เล่มแรกของไทย ชื่อว่า ‘บาร์บีกอนกับภารกิจตามหาไฟศักดิ์สิทธิ์’

หนังสือเล่มนี้ เป็นการนำประวัติของบาร์บีคิวพลาซ่าที่ผ่านอุปสรรคมากมายมากว่า 30 ปี แต่ยังอยู่รอดได้ถึงปัจจุบัน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและให้ความรู้ทางธุรกิจกับผู้อ่านทุกเพศ ทุกวัย

ชาตยามองว่า เมื่อก่อน บาร์บีกอนเคยเป็นผู้บุกเบิกกลยุทธ์ ‘Mascot Marketing’ ในประเทศไทย และคราวนี้ก็เป็นอีกครั้ง ที่น้องก้อนกลายเป็นผู้บุกเบิกของการเปลี่ยนแปลงมาสคอตธรรมดาๆ สู่การเป็นแบรนด์ของตนเอง โดยนิทานดังกล่าวจะเป็นหลักไมล์สำคัญที่ตอกย้ำให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของบาร์บีกอน

ยิ่งไปกว่านั้น น้องก้อนยังมีแฟนเพจเป็นของตนเอง แยกตัวจากเพจบาร์บีคิวพลาซ่าเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งแพลตฟอร์มนี้จะเป็นช่องทางการสื่อสารหลักของน้องก้อนกับทุกๆ คน 

มาถึงตรงนี้ บางคนอาจสงสัยว่า ถ้าไปทานร้านบาร์บีคิวพลาซ่า จะเจอน้องอยู่ไหม คำตอบคือ บาร์บีกอนยังทำหน้าที่เป็นมาสคอตหน้าร้านอยู่ แค่เพิ่มบทบาทในการสร้างแบรนด์ของตนเองด้วยเท่านั้น และอีกไม่นาน ทุกคนคงได้เห็นบาร์บีกอนในรูปแบบอื่นๆ ไม่ใช่แค่หนังสือนิทานหรือโซเชียลมีเดียแน่นอน

ธุรกิจอาหารในไทยเปรียบเสมือนโอลิมปิกเกมส์

บาร์บีกอน
ภาพจากเพจ Bar B Q Plaza

มีโอกาสคุยกับ Food Passion ทั้งที นอกจากเรื่องน้องบาร์บีกอน ก็คงต้องพูดเรื่องธุรกิจอาหารอย่างบาร์บีคิวพลาซ่าบ้าง

โดยชาตยาให้นิยามวงการธุรกิจอาหารในไทยว่า เปรียบเสมือนกับ ‘การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก’ เพราะมีผู้เล่นเยอะ และมีแต่คนเก่งๆ เต็มตลาด แต่ปีนี้อาจเป็นโอลิมปิกเกมส์ในพายุ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจมหภาคค่อนข้างเยอะ

อย่างไรก็ตาม ในปี 2025 ชาตยาคาดว่า อาจได้เห็นไดนามิกของทั้งผู้เล่นเก่าและใหม่มากขึ้น โดยคงต้องจับตามองว่าจะมีใครนำเสนอสิ่งแปลกใหม่อย่างไรบ้าง และเธอเชื่อว่า ปีหน้าจะเป็นปีที่สนุกมากสำหรับตลาดธุรกิจอาหาร

เมื่อถามชาตยาเกี่ยวกับปัจจัยที่อาจกระทบธุรกิจอาหารในปีหน้า เธอตอบว่า เศรษฐกิจและกำลังซื้ออาจมีผล เพราะกระทบผู้บริโภคโดยตรง ทั้งนี้ อาหารยังเป็นปัจจัย 4 ที่แปลว่าต่อให้เศรษฐกิจไม่ดี คนเราก็ยังต้องกิน หรือถ้ารู้สึกเหนื่อย อาหารสามารถเป็นพลังให้ชีวิตได้

ในส่วนของธุรกิจ ‘ปิ้งย่างหมูกระทะ’ ชาตยามองว่า อาหารประเภทนี้เป็นคอมฟอร์ตฟู้ดของคนไทยไปแล้ว เพราะมันคืออาหารที่เราคุ้นเคย มีรสชาติที่เยียวยาจิตใจ กินง่าย แถมยังมีจุดเด่นคือ ลูกค้าสามารถปรุงเอง อร่อยเอง และสนุกไปกับการทานได้ สะท้อนถึงความเป็นคนไทยมากๆ

ดังนั้น ร้านปิ้งย่างที่เข้าใจคนไทย ก็จะยังได้รับความนิยมอยู่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา