กระแส ‘แบนเกาหลี’ ทำนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปญี่ปุ่นและจีนมากขึ้น

กระแสแบนแดนกิมจิด้วยแฮชแท็ก #แบนเกาหลี บนทวิตเตอร์ทำคนไทยไปเที่ยวเกาหลีลดลง 21% หลายคนเปลี่ยนเป้าหมายไปญี่ปุ่นและจีน เพราะวิวดี ราคาถูก ไม่ต้องเสี่ยงถูกส่งกลับไทย

ตม. เกาหลีและปัญหาแรงงานผิดกฎหมายจากไทย

ในช่วงก่อนโควิด-19 เกาหลีใต้เป็นประเทศที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวจากไทยและประเทศอื่นๆ เดินทางท่องเที่ยวในเกาหลีใต้ได้ 90 วัน ถ้าได้รับการอนุมัติจากระบบออนไลน์สำหรับคัดกรองนักท่องเที่ยวต่างประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่าหรือที่เรียกว่า K-ETA

ระบบคัดกรองล่วงหน้าทำให้คนไทยหลายคนเดินทางไปเกาหลีใต้เพื่อหางานทำและอยู่ในประเทศเกินว่า 90 วันเพราะได้ค่าแรงขั้นต่ำมากกว่าค่าแรงที่ไทย 3-4 เท่า ทำให้เกิดปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย

ข้อมูลจากรัฐบาลเกาหลีใต้บอกว่า ในเดือนกันยายนของปีที่แล้ว มีคนไทยที่อยู่ในเกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมาย 157,000 ราย เพิ่มขึ้น 3 เท่าจากปี 2015

รัฐบาลเกาหลีใต้ยังบอกอีกว่า นับตั้งแต่ปี 2016 มีคนไทยเป็นสัดส่วนมากที่สุดในกลุ่มชาวต่างชาติที่อยู่ในเกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมาย

เมื่อปีที่แล้ว กระทรวงแรงงานของไทยก็ได้เปิดรับคนไทยที่อยู่อย่างผิดกฎหมายในเกาหลีใต้กลับประเทศ พบว่ามีผู้ลงทะเบียนขอกลับประเทศ 2,601 ราย

ปัญหาแรงงานผิดกฎหมายเลยทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลีใต้ต้องคัดกรองคนไทยอีกขั้นหนึ่งเมื่อเดินทางถึงประเทศ แต่กลายเป็นว่านักท่องเที่ยวไทยที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวในเกาหลีใต้อย่างถูกกฎหมายหลายคนถูกส่งตัวกลับไทย หลายคนเสียเงินค่าเครื่องบิน โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวไปแบบฟรีๆ

กระแสแบนเกาหลีทำนักท่องเที่ยวไทยไปเกาหลีลดลง 21%

#แบนเกาหลี เกิดขึ้นบนโซเชียลมีเดียในช่วงปลายปีที่แล้ว หลังจากคนไทยจำนวนมากมาแชร์ประสบการณ์ถูกส่งตัวกลับไทยแม้จะได้รับการรับรองผ่านระบบ K-ETA และได้เหยียบแผ่นดินเกาหลีแล้ว

นักท่องเที่ยวไทยที่ถูกส่งตัวกลับต้องเสียเงินหลักพันหรือหลักหมื่นบาทไปโดยไม่ได้เที่ยวและไม่ได้คืน ทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และค่าใช้จ่ายในการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวที่จองไว้ก่อนล่วงหน้า

บางคนบอกว่า การเดินทางไปเกาหลีใต้ทำให้กังวลมากๆ ยิ่งถ้าพูดภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง ก็จำเป็นต้องยอมถูกส่งตัวกลับ

สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การถูกส่งตัวกลับยังทิ้งร่องรอยการปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศไว้บนพาสปอร์ต ทำให้เข้าประเทศอื่นๆ ได้ยากกว่าเดิมในอนาคต

กระแสแบนเกาหลีที่บูมขึ้นมาในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วทำให้ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ จำนวนคนไทยที่เดินทางไปเที่ยวเกาหลีใต้ลดลง 21% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 

เท่ากับว่ามีคนไทยไปเกาหลีใต้ 119,000 ราย ตามข้อมูลขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี เปรียบเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 ที่มีคนไทยเดินทางเข้าเกาหลีใต้ 572,000 ราย

คนไทยขอบายเกาหลีใต้ เที่ยวญี่ปุ่น-จีนมากขึ้น

กระแสแบนเกาหลีได้รับการพูดถึงอีกครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ยุทธชัย สุนทรรัตนเวช อุปนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) มองว่า การที่นักท่องเที่ยวไทยไปเกาหลีใต้ลดลงเป็นเพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวน้อย ส่วนใหญ่ได้รับความนิยมจากภาพยนตร์และซีรีส์บน Netflix ทำให้โด่งดังแค่ชั่วคราว

ยุทธชัย สุนทรรัตนเวช ยังบอกอีกว่า นอกจากญี่ปุ่นและจีนจะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่าแล้ว ยังเข้าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าและราคาถูกกว่า บวกกับบรรยากาศดีด้วย

TTAA คาดการณ์ว่า การที่จีนฟรีวีซ่าจะทำให้นักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้าจีน 1.2 ล้านคน คิดเป็นเกือบ 2 เท่าของจำนวนนักท่องเที่ยวไทยในปี 2019 ที่มีอยู่ 693,818 คน

ส่วนค่าใช้จ่ายในการเที่ยวจีน ระยะเวลา 4 วันจะอยู่ประมาณ 22,000 บาท เทียบกับประมาณ 30,000 บาทถ้าเดินทางไปเกาหลีใต้ในระยะเวลาเท่ากัน

ความต้องการเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ฝั่งสายการบินเองเพิ่มเที่ยวบินตามมา อย่างเช่นการบินไทยที่เพิ่มเที่ยวบินไปจีนจาก 7 เที่ยวบินมาเป็น 11 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะเส้นทางไปและกลับจากปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ คุนหมิงและยูนนาน

ทางฝั่งญี่ปุ่นเองก็ได้รับความนิยมพุ่งขึ้นมากส่วนหนึ่งมาจากค่าเงินเยนที่อ่อนลงเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท รวมกับเมืองใหญ่ ภูมิประเทศสวยงาม และวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใคร

กลับมาที่ทางฝั่งเกาหลีใต้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวบอกว่ายังไม่รู้สึกถึงผลกระทบที่มีนัยสำคัญจากกระแสแบนเกาหลีจากไทย 

สมาคมการท่องเที่ยวเกาหลีใต้ (Korea Association of Travel Agencies) บอกว่า ยังไม่ได้มีข้อมูลอะไรมากเรื่องนักท่องเที่ยวไทยที่ลดลง

ขณะเดียวกัน เกาหลีใต้ก็กำลังพยายามรักษาตำแหน่งประเทศยอดนิยมในเอเชียโดยการประกาศใช้วีซ่าใหม่สำหรับคนที่สนใจวัฒนธรรมเกาหลีใต้โดยเฉพาะ เรียกว่า “Hallyu Visa” ที่จะอนุญาตให้ผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองเกาหลีลงทะเบียนในสถาบันศิลปะการแสดงท้องถิ่นและอยู่ในประเทศได้นานสุด 2 ปี

ที่มา – Nikkei Asia

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา