บางแสน42 ชลบุรีมาราธอน มาราธอนมาตรฐานระดับโลก ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน

รวมพลังความร่วมมือทุกภาคส่วน ยกระดับ “ชลบุรี” สู่ Sport City แห่งอาเซียน

จังหวัดชลบุรีเตรียมเปิดฉากงานวิ่งสุดยิ่งใหญ่ระดับนานาชาติ “บางแสน42 ชลบุรีมาราธอน” ครั้งที่ 9 จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน 2568 ณ จุดปล่อยตัวหน้าโรงแรมบางแสนเฮอริเทจ จังหวัดชลบุรี การแข่งขันปีนี้จัดเต็มในระยะมาราธอน 42.195 กิโลเมตร ภายใต้มาตรฐานระดับโลก World Athletics Elite Label Road Race งานวิ่งเดียวในประเทศไทยและอาเซียนที่มีนักวิ่งมากที่สุด โดยมีนักวิ่งเข้าร่วมกว่า 12,500 คน จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศและนักวิ่งต่างชาติกว่าหนึ่งพันคน รวมผู้ติดตามและผู้เข้าร่วมงานกว่า 40,000 คน คาดการณ์เงินสะพัดในพื้นที่กว่า 500 ล้านบาท จากการท่องเที่ยว การเข้าพักโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจท้องถิ่นในบางแสน ศรีราชา และพื้นที่ใกล้เคียง ตอกย้ำบทบาทของชลบุรีในฐานะ Sport City ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยพลังของการท่องเที่ยวเชิงกีฬา

คุณสนธยา คุณปลื้ม ประธานที่ปรึกษา บางแสน42 ชลบุรีมาราธอน กล่าวว่า “การจัดงานบางแสน42 ในแต่ละครั้ง ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของผู้จัดเพียงฝ่ายเดียว แต่คือผลลัพธ์ของความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่น ทุกคนมีหัวใจเดียวกันคืออยากให้โลกเห็นว่า ‘ชลบุรี’ ไม่ได้เป็นเพียงเมืองท่องเที่ยวชายทะเล แต่คือเมืองกีฬาแห่งศักยภาพ หรือ Sport City ของประเทศไทย ที่สามารถจัดงานวิ่งมาตรฐานระดับโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบ”

“ชลบุรีกำลังมุ่งสู่การเป็น Sport City ระดับเอเชีย (Asian Sport City) อย่างแท้จริง งานบางแสน42 คือภาพสะท้อนของความพร้อมและความร่วมมือที่เกิดขึ้นจริง ทั้งด้านการบริหารจัดการ ความปลอดภัย การมีส่วนร่วมของชุมชน และศักยภาพในการเป็นเจ้าภาพจัดงานกีฬานานาชาติในอนาคต” คุณสนธยา กล่าว

คุณพนธกร ใคร่ครวญ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า “ปีนี้งานบางแสน42 มีนักวิ่งกว่า 12,500 คนจาก 77 จังหวัด และนักวิ่งต่างชาติกว่าหนึ่งพันคน พร้อมผู้ติดตามอีกกว่าสามหมื่นคน ทำให้บรรยากาศในจังหวัดคึกคักตลอดสัปดาห์ของการแข่งขัน โรงแรมในบางแสน ศรีราชา และพื้นที่ใกล้เคียงเต็มทั้งหมด คาดการณ์มีเงินสะพัดในพื้นที่กว่า 500 ล้านบาท ส่งเสริมทั้งการท่องเที่ยวและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนท้องถิ่น งานบางแสน42 คือภาพสะท้อนของความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่รวมใจสร้างงานวิ่งระดับโลกให้ประเทศไทย”

องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรีในฐานะเจ้าภาพหลัก ได้เตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งการประสานกับหน่วยงานต่างๆ พร้อมกับการดูแลความปลอดภัย และสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อรองรับนักวิ่ง และผู้ติดตามทุกคน ตามมาตรฐานการจัดการแข่งขันระดับโลก โดยได้รับความร่วมมือจากทุกเทศบาลที่เป็นพื้นที่จัดการแข่งขัน ตำรวจภูธรจังหวัด กรมทางหลวง หน่วยกู้ภัย และหน่วยงานทุกภาคส่วนของจังหวัดชลบุรี ที่เข้ามาดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการปรับปรุงผิวจราจร เสริมไฟส่องสว่าง สัญญาณไฟลูกศร และปรับภูมิทัศน์ตลอดเส้นทางวิ่งให้สวยงาม พร้อมเตรียมให้บริการห้องน้ำ และรถสุขาเคลื่อนที่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักวิ่งทุกคนอย่างครบถ้วน นอกจากนี้เรายังได้รับความร่วมมือจากชุมชนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และองค์กรภาคเอกชนในจังหวัดชลบุรี จัดเตรียมกองเชียร์ “Chonburi We Cheer” ขึ้น เพื่อต้อนรับนักวิ่ง ให้มีกำลังใจและได้รับความสนุกสนานตลอดการแข่งขัน เพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักวิ่งต่างถิ่นที่มาเยือนจังหวัดชลบุรีทุกท่าน

คุณทวีเดช ทองอ่อน ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมกิจกรรมกีฬาระดับนานาชาติที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพ ซึ่งมีกำลังซื้อสูงและมีระยะเวลาพำนักที่ยาว งานบางแสน42 ชลบุรีมาราธอน เป็นตัวอย่างที่ดีของการจัดงานกีฬาที่มีมาตรฐานระดับโลก ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยในเวทีระดับสากล และกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม โดยปีนี้มีนักวิ่งจากทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย และจาก 37 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมทำการแข่งขัน ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยพร้อมสนับสนุนการจัดงานในลักษณะนี้อย่างเต็มที่ เพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬาที่สำคัญของภูมิภาคเอเชีย”

งาน “บางแสน42 ชลบุรีมาราธอน” คือแบบอย่างของ “พลังแห่งความร่วมมือ” จากทุกภาคส่วนของจังหวัดชลบุรี ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ที่รวมใจกันจัดงานระดับโลกได้อย่างสง่างาม สะท้อนศักยภาพของชลบุรีในฐานะ Sports Tourism Hub ชั้นนำของเอเชีย ที่พร้อมต้อนรับนักวิ่งจากทั่วโลก

คุณณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข กล่าวว่า “เทศบาลเมืองแสนสุขในฐานะเจ้าภาพร่วม ปีนี้เราได้มีการปรับภูมิทัศน์ชายหาดบางแสนให้สวยงามมากขึ้น สร้างแลนด์มาร์กใหม่ๆ โดยนำคิงคองออฟบางแสน ลิงแซมมี่ มุกกี้ ซึ่งเป็นมาสคอทของงานบางแสน ไปไว้ที่บริเวณเขาสามมุข และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้นักวิ่งและนักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินตลอดเส้นทาง พร้อมปิดการจราจรแบบ 100% เพื่อความปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐาน World Athletics Elite Label”

นอกจากนี้ ยังคงมีเงินรางวัลอัดฉีดพิเศษ สำหรับนักวิ่งชายไทยและหญิงไทย ที่สามารถทำลายสถิติสนามคนไทยของบางแสน42 ชลบุรีมาราธอน จะได้เงินรางวัลพิเศษเพิ่มอีกคนละ 100,000 บาท โดยสถิติสนาม Race Record BANGSAEN42 ของชายไทย เป็นของ สัญชัย นามเขต ทำเวลาไว้เมื่อปี 2020 ที่ 2:22:26 ชั่วโมง และ ฝ่าย

หญิง อรอนงค์ วงศร สามารถทำลายสถิติสนามและเป็นสถิติใหม่ให้กับตัวเองไว้เมื่อปีที่ผ่านมา (ปี 2024) ไว้ที่ 02:52:30 ชั่วโมง

“เราภูมิใจที่งานบางแสน42 ไม่ได้เป็นเพียงงานวิ่ง แต่เป็นเทศกาลแห่งกีฬาและการท่องเที่ยว ที่สร้างรอยยิ้ม รายได้ และความภาคภูมิใจให้กับคนในชุมชน” คุณณรงค์ชัย กล่าว

รัฐ จิโรจน์วณิชชากร Race Director และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมซ์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด

คุณรัฐ จิโรจน์วณิชชากร Race Director และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมซ์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด กล่าวว่า “งานบางแสน42 จัดต่อเนื่องขึ้นเป็นปีที่ 9 ได้รับรองมาตรฐานระดับ Elite Label Road Race จากสหพันธ์กรีฑาโลก เรามีการปรับปรุงและพัฒนาการจัดงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักวิ่งและผู้ติดตามได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด ทั้งในด้านความปลอดภัย การบริการ และการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อยกระดับให้งานบางแสน42 ชลบุรีมาราธอน เป็นงานวิ่งมาตรฐานระดับโลกที่เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน

ในส่วนของการแข่งขัน ปีนี้มีนักวิ่งเข้าร่วมมากถึง 12,500 คน มีนักวิ่งที่มาร่วมวิ่งในงานบางแสน42 อย่างต่อเนื่อง 9 ปีติดต่อกันถึง 120 คน ซึ่งทุกคนจะได้รับเสื้อแจ็กเกตพิเศษ “The Legacy 9” เป็นที่ระลึกแห่งความภาคภูมิใจ โดยปีนี้มีนักวิ่งอีลิทระดับโลก (Elite) เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 23 คน นักวิ่งระดับเซมิอีลิท (Semi-Elite) 10 คน และนักวิ่งขาแรงไทย (Thai Fast Runners) มากถึง 174 คน คาดว่าจะทำให้การแข่งขันในครั้งนี้ดุเดือดและน่าติดตามเป็นอย่างมาก

Oplus_16908288

สำหรับไฮไลท์สำคัญของงานบางแสน42 คือ ‘ศึกชิงคิงคองแห่งชาติ’ ที่จะมอบตุ๊กตาคิงคองออฟบางแสน สัญลักษณ์แห่งเขาสามมุข ให้กับนักวิ่ง 100 คนแรก ทั้งชายและหญิงที่เข้าเส้นชัยก่อนใคร โดยสถิติปีที่แล้วคิงคองชายตัวสุดท้ายทำเวลาไว้ที่ 03:05:44 ชั่วโมง และคิงคองหญิงตัวสุดท้ายอยู่ที่เวลา 03:54:06 ชั่วโมง โดยคาดว่าปีนี้ สถิติเวลาคิงคองตัวสุดท้ายของทั้งชายและหญิงจะเร็วขึ้นอีก”

“ทุกก้าวของนักวิ่งคือแรงผลักดันให้เราพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ขอบคุณนักวิ่งทุกคนที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานบางแสน42” คุณรัฐ กล่าว

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา