ข้อมูลจาก TomTom Traffic Index ปี 2019 ที่ผ่านมา ระบุว่า กรุงเทพฯ มีการจราจรติดขัดหนาแน่นสูงเป็นอันดับที่ 7 ของเอเชีย อันดับที่ 11 ของโลก ความหนาแน่นบนท้องถนนกรุงเทพฯ อยู่ที่ 53%
ปี 2017 กรุงเทพฯ ติดอันดับที่ 7, ปี 2018 อันดับที่ 8 และปี 2019 อยู่อันดับที่ 11 ถือว่าอยู่ในอันดับที่ดีขึ้น แต่ความหนาแน่นเท่ากับปี 2018 อยู่ที่ 53% (ยิ่งติดอันดับน้อยๆ สถานการณ์ความแออัดทางจราจรยิ่งแย่) ความหนาแน่นดังกล่าวหมายความว่า ถ้าต้องเดินทางใช้เวลา 30 นาทีถึงที่หมาย ต้องเพิ่มเวลาไปอีก 53% จะถึงที่หมาย
การจราจรในกรุงเทพฯ ไทย มีความหนาแน่นเกิน 50% เริ่มตั้งแต่ช่วง 06.00น. อยู่ที่ 53% สำหรับวันจันทร์เท่านั้น ส่วนวันอังคาร-อาทิตย์ต่ำกว่า 50% และหนาแน่นมากขึ้นในช่วง 06.30น. ของวันจันทร์ถึงวันศุกร์ หนาแน่นสูงสุด 88% และค่อยๆ เบาลงหลังช่วง 10.30น. และหนาแน่นสูงสุดคือช่วงเวลา 16.30น. จนถึง 20.00น. หนาแน่นมากถึง 80% ทะลุ 113%
ช่วงเวลาการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ที่ทำให้ผู้คนเสียเวลาอยู่บนท้องถนนราว 207 ชั่วโมง หรือประมาณ 8 วัน 15 ชั่วโมงต่อปี
ช่วงเวลาที่สูญเสียไปบนท้องถนนดังกล่าว เว็บไซต์ TomTom ระบุว่า สามารถอ่านหนังสือเรื่อง In Search of Lost Time ของ Marcel Proust ความยาวประมาณ 7 เล่ม จำนวน 4,211 หน้า ช่วงเวลาที่เผชิญรถติดสาหัสรวมทั้งหมดต่อปีนี้จะทำให้อ่านเรื่องนี้ได้มากถึง 6,210 หน้า หรือประมาณ 147%
ถักหมวกไหมพรมได้ 52 ใบ ถักเสื้อกันหนาวราว 9 ตัว ฟังเพลง Imagine ของ John Lennon ได้มากถึง 3,968 รอบ ทำแพนเค้กได้ 5,971 ชิ้น ทำคุกกี้ได้ 9,936 ชิ้น ดูฟุตบอลแข่งกันได้ 118 แมตช์ ดูซีรีย์ Game of Thrones ได้มากถึง 183 ภาค ต่อจิ๊กซอว์ขนาด 500 ชิ้นได้มากถึง 41 ผลงาน และยังปลูกต้นไม้ได้ได้มากถึง 207 ต้น ขณะที่ญี่ปุ่น อยู่อันดับที่ 9 ของเอเชีย อันดับที่ 32 ของโลก เริ่มคิดแผนจะมีแท็กซี่บินได้แล้ว ไม่ต้องทนปัญหารถติด น้ำท่วม เสี่ยงตกท่อ ญี่ปุ่นอาจมี “แท็กซี่บินได้” ปี 2023 นี้
ที่มา – TomTom Traffic Index Ranking
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา