ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ทุกคนรู้จักบทบาทธนาคารว่าเป็นแหล่งกู้สินเชื่อเพื่อเกษตรกร แต่มีน้อยคนที่รู้ว่า นอกจากธนาคารจะเป็นแหล่งปล่อยกู้แล้ว ยังเป็นเพื่อนช่วยเกษตรกรคิด ช่วยหาวิธีสร้างความเจริญเติบโตของผลผลิตการเกษตรด้วย
ในบทความนี้จะพาไปดูกรณีศึกษาจากชุมชนปลูกผักปลอดสารพิษ ชุมชนบ้านนาอุดม อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ ที่คิดหาวิธีทำลายข้อจำกัดของการปลูกผักปลอดสาร โดยมี ธ.ก.ส. ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไปพร้อมเกษตรกรด้วย
ปัญหาที่ผู้ปลูกผักปลอดสารในชุมชนบ้านนาอุดมเจอคือ ปลูกผักได้ช่วงเดียว คือช่วงหลังเก็บเกี่ยวข้าว หลังหน้าหนาวถึงเดือนเมษายน แต่นอกจากนั้นจะปลูกยาก เพราะฝนตก น้ำท่วม แทนที่จะปลูกแบบควบคุมได้เพื่อรายได้ที่ต่อเนื่อง กลับต้องเจอข้อจำกัดเรื่องสภาพอากาศ กลุ่มผู้ปลูกผักจึงพยายามหาวิธีแก้ปัญหาด้วยการปรึกษากับ ธ.ก.ส. สาขาในท้องที่
จำปี เดชรัตน์ (ผู้ใหญ่แส) ประธานกลุ่มชุมชนปลูกผักปลอดสารพิษ เล่าให้ฟังว่า กลุ่มผู้ปลูกผักจึงเข้าไปปรึกษากับ ธ.ก.ส. สาขาห้วยผึ้ง เมื่อทางธนาคารเล็งเห็นว่ากลุ่มเกษตรกรมีความตั้งใจจริง จึงพาไปดูงานที่ภูตะวันฟาร์ม จังหวัดอำนาจเจริญ ที่ปลูกผักในโรงเรือนพลาสติกคัดเลือกแสงเองได้ สามารถปลูกได้ทั้งปี เมื่อดูงานกลับมาทางเราก็จัดทำแผน เสนอขอกู้ไปยัง ธ.ก.ส. และได้รับอนุมัติเป็นชื่อโครงการ ธุรกิจชุมชนสร้างไทย
อาทิตย์ ซินโซ พนักงานพัฒนาลูกค้า สำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์ บอกว่า ทาง ธ.ก.ส. มีเครือข่ายเกษตรกรอยู่แล้วในหลายจังหวัด เราจึงสามารถพาเกษตรกรไปศึกษาดูงานในเครือข่ายที่อื่นๆได้ และเมื่อดูจากประสบการณ์การปลูกผักของชุมชนบ้านนาอุดมที่มีมานานกว่า 10 ปี ซึ่งมีความเชี่ยวชาญแล้ว จึงสนับสนุนให้ทางกลุ่มเขียนแผนโครงการยื่นขอสินเชื่อเข้ามา
จากการเสนอโครงการในวันนั้น นำมาสู่โรงเรือนปลูกผักปลอดสารใหม่ถึง 40 โรงเรือนในวันนี้ ซึ่งในระหว่างการดำเนินการ ธ.ก.ส. ลงมาดูในทุกขั้นตอน ให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการทำบัญชี การตลาด แหล่งที่จะส่งผักออกขาย ผลคือเกษตรกรมีรายได้ตลอดทั้งปีไม่ต้องกลัวฝน จนบางครัวเรือนลูกหลานกลับมาช่วยพ่อแม่ปลูกผัก เพราะสามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
ติดตามเรื่องราวเต็มๆได้ที่ Youtube : BAAC Thailand
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา