AXONS UXUI Day 2025 สรุปเวที UX/UI แห่งปี ในยุคที่ AI เข้าสู่วงการนี้เต็มตัว

ในปี 2025 ที่ AI เข้ามาอยู่ในธุรกิจอย่างเข้มข้นที่สุด หนึ่งในสายงานที่มีการปรับใช้สิ่งนี้อย่างมากก็คือแวดวงเทคโนโลยี แม้แต่คนทำ UX/UI ก็ต้องเจอความเปลี่ยนแปลงนี้ด้วย เพราะ UX/UI เปรียบได้กับสะพานที่เชื่อมเทคโนโลยีกับผู้ใช้ที่เป็นมนุษย์

AXONS UX/UI Day 2025

ล่าสุด AXONS จัดงาน AXONS UX/UI Day 2025 ในหัวข้อ Redefining UX/UI Practices for the Future รวบรวมวิทยากรมากมายทั้งภายในองค์กรและพันธมิตรระดับโลก เพื่อตอบคำถามว่าธุรกิจและคนทำงานสายเทคฯ โดยเฉพาะในสาย UX/UI จะเอา AI มาใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ทั้งนี้ AXONS เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยี AgriTech ต้องออกแบบโซลูชันที่ครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้งาน (Persona) ที่กว้างขวางมาก ตั้งแต่เกษตรกรในฟาร์มไปจนถึงผู้บริหาร การออกแบบในแต่ละขั้นตอนและกระบวนการจึงมีความแตกต่างกัน ซึ่งเป็นโจทย์ที่ต้องใช้ความเข้าใจเชิงบริบทอย่างลึกซึ้ง

นอกจากนี้ AXONS ยังมีประสบการณ์ในการปรับจูนทีม UX/UI ของตัวเองที่มีคนเกือบ 100 คน ให้นำ AI เข้ามาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ธุรกิจ สิ่งที่นำเสนอภายในงานนี้จึงจัดได้ว่าน่าสนใจมาก ๆ สำหรับธุรกิจและคนทำงานในแวดวง UX/UI

AXONS มองว่า AI จะไม่ได้มาแทนมนุษย์ เพราะงานออกแบบต้องอาศัยความเป็นมนุษย์ในการเข้าใจผู้ใช้ ดังนั้น AI จะเป็นเพียงเครื่องมือช่วย ที่จะเสริมประสิทธิภาพ ความรวดเร็ว และความคิดสร้างสรรค์ โดยบริษัทได้พัฒนาโมเดล AI ของตนเองถึง 4 ตัว เพื่อให้ตอบโจทย์ Business Goal ในงาน UX/UI ของบริษัท

‘ชนิษฐา บุนฑารักษ์’ Senior UX/UI Research, AXONS เล่าถึงการนำ AI เข้ามาปรับใช้ในส่วนงาน UX/UI เนื่องจากงานวิจัยของ MIT พบว่า กว่า 95% ขององค์กรทั่วโลกล้มเหลวในการทำ AI Transformation เพราะรีบร้อนให้พนักงานใช้ AI ขาดการอิง Business Goal และไม่นำ AI เข้าไปใน Workflow รวมไปถึงความไม่พร้อมของทั้ง Data ที่ต้องใช้ในการสร้าง AI และการเพิ่ม Skills ด้านการใช้งาน AIให้พนักงาน

ดังนั้นสิ่งที่บริษัทจำเป็นต้องทำคือการออกแบบ ‘กิจกรรม’ ของตัว UX/UI Designer เพื่อตัดสินใจว่างานใดควรทำโดย AI, มนุษย์ หรือทำร่วมกัน เพื่อสำรวจว่า AI ควรเข้ามาอยู่ตรงไหนบ้างในเนื้องาน นอกจากนี้ธุรกิจต้องพิจารณาต่อ 3 เรื่องว่างานที่อยู่ในแต่ละกิจกรรมนั้นใช้บ่อยหรือไม่ มีข้อมูลพร้อมแค่ไหน และมีโอกาสในการช่วยธุรกิจในการลดต้นทุนหรือสร้างกำไรหรือไม่

ในกรณีของ AXONS มีการพัฒนา AI ออกมา 4 โมเดล เพื่อช่วยในงาน UX Writing, UX Designing, Analytics Tracking และ Summary Data & Score Calculation ผลลัพธ์คือ ช่วยเพิ่ม Productivity 4.8 เท่า ประหยัดต้นทุน 9.12 ล้านบาท และมี ROI สูงถึง 197%. โดยในปัจจุบันมีคนทำงานกว่า 66% นำไปใช้งานจริง ๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ Emotional Design ในการสร้างคาแร็กเตอร์ที่น่ารักและมีชื่อที่จดจำได้ง่าย เป็นคำอวยพรในการทำงาน เช่น ดีดี (DeeDee) และ ปังปัง (PungPung)

แน่นอนว่าการนำ AI เข้ามาผสานกับทีมงานเกือบ 100 ชีวิตย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย ‘พรพงษ์ โสภณสกุลรัตน์’ UX/Ul Strategy Manager จาก AXONS แบ่งปันประสบการณ์ ‘การพัฒนาทีม’ ว่ามี 2 เรื่องที่ต้องทำ คือ สร้าง Safety Net และ Springboard ให้กับทีม

พรพงษ์ เล่าว่า Safety Net เปรียบเสมือนตาข่ายที่รองรับทีมเมื่อต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง หรือต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจ และคงไม่มีตาข่ายใดดีไปกว่าการสร้างโรงเรียนภายในทีม จึงสร้าง “AXONS UX/UI Academy” เปิดพื้นที่ให้เรียนรู้ ลองทำ เจ็บได้ โดยปัจจุบัน UX/UI Designer ทั้ง 92 คน ของ AXONS สามารถทำงานแบบ Full-Loop UX/UI ซึ่งรวมถึงการทำ Data Analytics ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ยากที่สุดศาสตร์หนึ่ง

ส่วน Springboard คือการทำให้ทีมกระโดดขึ้นไปได้สูงกว่าเดิม ประสบความสำเร็จมากขึ้นกว่าเดิม ผ่านการทำ “AXONS UX/UI Leadership Program” ซึ่งประกอบด้วย AXONS UX/UI Studio พื้นที่แบ่งปันความรู้ภายใน, AXONS UX/UI Podcast รายการที่เล่าเรื่อง UX/UI ผ่านมุมมองทางวิทยาศาสตร์, รวมถึงเปิดโอกาสให้ส่งโปรเจกต์ประกวด และจัดเวที AXONS UX/UI Day เป็นพื้นที่ showcase ด้วย

‘ดร. กอบกฤตย์ วิริยะยุทธกร’ CEO ของ iApp Technology และนายกสมาคมกิตติมศักดิ์ ผู้ประกอบการปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย เล่าถึงภาพรวมอุตสาหกรรมว่า การเข้ามาของ Vibe Design ทำให้นักออกแบบสามารถสร้างผลผลิตออกมาเป็นโค้ด Front-End ได้ทันทีด้วย AI จากเดิมทีจะต้องออกแบบแล้วให้ Front-end Developer พัฒนาต่อ

เทรนด์นี้จะทำให้ทีมพัฒนาทำโปรดักต์ได้เร็วขึ้น 10 ถึง 100 เท่า ส่งผลให้เกิดความคล่องตัวสูงขึ้น และยังลดปัญหา Design-Code Mismatch ทำให้จากนี้ แทนที่จะเสียเวลาไปกับแก้ปัญหาระหว่างโลกโค้ดดิ้งและโลกของการออกแบบ ธุรกิจมีเวลาไปโฟกัสที่การทำ Hyper-Personalization Application

นอกจากเวทีข้างต้นแล้ว ภายในงานยังรวมวิทยากร 14 ท่าน จาก 11 เวทีเสวนา เพื่อให้ความรู้ตั้งแต่การออกแบบ UX/UI ด้วย AI โดยมีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง, การทำงานร่วมกับ AI, ความเปลี่ยนแปลงในอาชีพ UX/UI ตลอดจนการดูแลกายใจในยุคที่ AI ทำให้โลกไม่แน่นอน

ที่สำคัญงาน AXONS UX/UI Day 2025 ยังรวบรวมเอาบูธที่น่าสนใจมาจัดแสดงให้ผู้เข้าร่วมได้ชม ไม่ว่าจะเป็นการสาธิตโมเดล AI น่ารัก ๆ ทั้ง 4 ตัว ได้แก่ BaoBao, FlowFlow, PungPung และ DeeDee บูธ Design Salon ปรึกษาเรื่อง UX/UI แบบตัวต่อตัว และยังมีบูธของพันธมิตร เช่น Figma และ Adobe อีกด้วย

นี่คืออีกหนึ่งงานที่รวบรวมความเคลื่อนไหวในแวดวง UX/UI ที่คนทำงานสายนี้ไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะได้อัปเดตความรู้ใหม่ ๆ ทั้งในแง่ Hard Skills และ Soft Skills แล้ว ยังได้เห็นวิสัยทัศน์ของวิทยากรมากมาย ตลอดจนภาพใหญ่ในอุตสาหกรรม สำหรับใครที่สนใจก็สามารถติดตามข่าวสารจาก AXONS เพื่อจะได้ไม่พลาดงานใหญ่แบบนี้ในปีต่อ ๆ ไป

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา