AWS จัดงาน HackDay และ Summit เกาะกระแสแรงเน้นพัฒนาเทคโนโลยี AI

AWS หรือ Amazon Web Services เดินหน้าโปรโมทบริการของตัวเองแก่บริษัทและธุรกิจในโซนเอเชียอย่างเต็มที่ จัดงาน AWS Summit และ HackDay ในหลายประเทศ และครั้งนี้เกิดขึ้นที่สิงคโปร์ จุดเด่นคือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วย AI

AWS เชื่อว่าองค์กรและธุรกิจในเอเชีย เข้าใจและรู้ถึงประโยชน์ที่จะได้รับ ทำให้สนใจใช้งาน Cloud Service มาขึ้น ดังนั้นการจัดงาน AWS HackDay 2017 และ AWS Summit 2017 ขึ้นที่สิงคโปร์ จึงเป็นการเจาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แบบชัดๆ

AWS HackDay 2017

งาน AWS HackDay เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นก่อนงาน AWS Summit เป็นประจำทุกปี เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ จาก Amazon แล้วนำมาสร้างไอเดียที่น่าสนใจ รวมไปถึงนำบริการต่างๆ จาก AWS Cloud เข้ามาแก้ปัญหาและพัฒนาไอเดียที่คิดขึ้นมา

ทีมที่เข้าแข่งขันต้องพัฒนาต้นแบบจากไอเดียที่นำเสนอเข้ามา โดยนำฮาร์ดแวร์ที่กำหนดให้ เช่น Amazon Echo Dot, AWS IoT Button, กล้องเว็บแคมและบอร์ดวงจรจาก Intel รวมไปถึงการนำบริการจาก AWS เช่น Amazon Polly (ระบบเปลี่ยนตัวอักษรเป็นเสียงพูด), Amazon Rekcognition (ระบบประมวลผลภาพ) หรือ Amazon S3 (ระบบเก็บข้อมูล) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาชิ้นงานที่สร้างขึ้นมา โดยใช้เวลาในการพัฒนาและแข่งขันเป็นเวลา 12 ชั่วโมง

ปีนี้มีทีมที่เข้าแข่งขันทั้งหมด 22 ทีม เป็นนักเรียนนักศึกษาในประเทศสิงคโปร์, กลุ่มบริษัทและสตาร์ทอัพและมีกลุ่มนักพัฒนาจาก Data Girls เข้าร่วม ซึ่งทุกทีมจะต้องเลือกหมวดหมู่ในการแข่งขันจาก 3 หมวดได้แก่ ด้านสุขภาพ, ด้านสิ่งแวดล้อมและด้านบ้านอัจฉริยะ

สำหรับผลการแข่งขัน รางวัลที่สองคือทีมจาก Singtel พัฒนาระบบกริ่งหน้าบ้านโดยใช้ IoT Button สามารถตรวจจับใบหน้าของผู้กดกริ่งได้ รางวัลที่หนึ่งคือทีม DareDevils พัฒนาระบบฟาร์มอัจฉริยะ สามารถแจ้งพยากรณ์อากาศและสั่งให้เปิดปิดระบบในฟาร์มได้ด้วยเสียงผ่าน Alexa นอกจากนี้ยังมีรางวัลสำหรับกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ผู้ชนะคือทีม 4 Musketeers พัฒนาระบบสแกนสลากยาด้วย QR Code และอ่านชื่อยาเป็นภาษาที่ต้องการพร้อมทั้งให้แจ้งเตือนการกินยาได้

AWS Summit 2017

ผู้บริหารจาก AWS ประจำภูมิภาคอาเซียน พูดถึงการเตรียมตัวที่จะให้บริการในภูมิภาคอาเซียนต่อจากนี้ทั้งเรื่องการตั้งสำนักงานในประเทศต่างๆ ซึ่งมี ประเทศไทยและมาเลเซียอยู่แล้ว รวมไปถึงจัดงานสัมมนาในประเทศที่มีผู้ใช้เยอะหรือมีโอกาสเติบโตได้ โดยในอาเซียนมีองค์กรที่หันมาใช้ AWS เป็นส่วนหนึ่งของระบบในของธุรกิจกันมาก ทั้งเป็นบริษัทชื่อดัง, สตาร์ทอัพและพาร์ทเนอร์หลายๆ เจ้า จนทำให้ตอนนี้ AWS ยังคงเป็นบริการอันดับที่ 1 ในตลาดของ Cloud Service ตอนนี้

นอกจากนี้ได้เชิญผู้บริหารจาก Grab, Astro และธนาคาร DBS มาพูดถึงการมีส่วนร่วมของ AWS และธุรกิจของตัวเอง โดยผู้บริหารจาก Grab กล่าวว่า บริการจาก AWS ช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย ทำให้ทีมงานไม่ต้องเสียเวลาในการดูแลระบบแต่อย่างใด

Astro เป็นบริการสื่อที่เปิดให้ใช้งานในมาเลเซีย ผู้บริหารกล่าวว่าเค้านำ AWS มาใช้ในการช่วยบริการสตรีมมิ่งของตัวเอง จะทำให้รองรับผู้ใช้งานได้มากกว่าเดิม และทำให้อนาคตสามารถขยายปริมาณการให้บริการได้ต่อเนื่องหากผู้ใช้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และคงความเป็นที่ 1 ในตลาดมาเลเซียได้

สุดท้ายคือผู้บริหารจากธนาคาร DBS ได้พูดถึงการเปลี่ยนตัวเองเป็นธนาคารดิจิตอล โดยนำ AWS มาใช้พัฒนาระบบต่างๆ ของตัวเองจนทำให้เป็นผู้นำด้าน Digital Banking ได้

ในปีนี้ AWS ได้ให้ความสำคัญกับเทรนด์ของ AI เป็นอย่างมาก ได้นำเสนอบริการ 3 ตัวที่ทำให้องค์กรและธุรกิจริเริ่มนวัตกรรมใหม่ๆ ได้แก่ Amazon Lex (ระบบสนทนาด้วยเสียง), Amazon Polly (ระบบอ่านข้อความเป็นเสียง) และ Amazon Rekognition (ระบบวิเคราะห์ภาพขั้นสูง) ซึ่ง AWS มองว่าบริการทั้ง 3 ตัวนี้จะตอบโจทย์กับองค์กรที่อยากสร้าง AI หรือระบบตอบโต้ผู้ใช้อัจฉริยะเป็นอย่างมาก

Alex Smith ผู้เชี่ยวชาญสถาปัตยกรรมด้านโซลูชันสื่อและความบันเทิงได้พูดถึงประโยชน์ที่องค์กรจะได้รับเมื่อเปลี่ยนมาใช้ Cloud ในการพัฒนาระบบว่า มันช่วยให้เกิดบริการของบริษัทที่หลากหลายขึ้น, ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น, ขยายธุรกิจของคุณได้รวดเร็วกว่าเดิม, ไม่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการลงทุนและทำให้ธุรกิจของคุณเข้าสู่ตลาดโลกได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิม

ตอนนี้ AWS มีบริการใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกเดือน มีองค์กรทั่วโลกทั้งขนาดใหญ่และสตาร์ทอัพทั่วโลกใช้งาน และมี Data Center ทั้งหมด 42 แห่งทั่วโลก ในอนาคตจะเพิ่มอีก 3 แห่งได้แก่ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส, เมืองหนิงเซี้ย ประเทศจีน และกรุงสต็อกโฮม ประเทศสวีเดน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา