แม้โรค COVID-19 จะทำให้ Startup เกี่ยวกับรถยนต์ไร้คนขับไม่สามารถทดสอบบนท้องถนน แต่พวกเขาก็พลิกวิกฤตเป็นโอกาสด้วยการนำรถยนต์ไร้คนขับมาวิ่งให้บริการจริงๆ เพื่อสื่อสารว่าเทคโนโลยีนี้เป็นได้มากกว่ายานพาหนะ
ส่งคน-ส่งของ ก็ทำได้ทั้งหมด
เพื่อความปลอดภัย และป้องกันการระบาดของโรค COVID-19 ทำให้หลายรัฐในสหรัฐอเมริกาขอร้องให้บางธุรกิจหยุดกิจการเอาไว้ก่อน หนึ่งในนั้นคือการทดลองให้บริการรถยนต์ไร้คนขับ แต่ถึงจะถูกห้ามทดลอง Startup ผู้พัฒนาเทคโนโลยีนี้ก็เจรจากับรัฐ และเข้ามาให้ความช่วยเหลือกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรค COVID-19
ไล่ตั้งแต่ Cruise ของกลุ่ม GM ที่นำรถยนต์ไร้คนขับมาาให้บริการส่งอาหารให้กับผู้สูงอายุที่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน โดยภายในรถยนต์ไร้คนขับจะมีผู้ขับนั่งอยู่สองคนเพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น แสดงให้เห็นว่ารถยนต์ไร้คนขับนอกจากใช้นั่งโดยสารแล้ว ยังใช้ส่งพัสดุแบบ Contactless Delivery ได้เช่นกัน
Pony.ai ที่มี Toyota เป็นผู้ลงทุน ได้ให้บริการส่งพัสดุเช่นเดียวกัน แต่จะเน้นไปที่วัตถุดิบต่างๆ ที่ถูกสั่งจากร้านค้าออนไลน์ ส่วน Nuro ได้นำรถยนต์ไร้คนขับรุ่น R2 ไปส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ โดย Startup ทั้งสามรายนี้ไม่ได้รายได้จากการบริการ แต่จะได้ข้อมูลต่างๆ มาพัฒนาระบบให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีผู้พัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับอื่นๆ เช่น Beeb ผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะไร้คนขับได้เข้าไปร่วมมือกับบางเมืองเพื่อให้บริการด้านการเดินทาง รวมถึง TuSimple ผู้ให้บริการรถบรรทุกไร้คนขับได้นำรถบรรทุกไร้คนขับมาร่วมส่งอุปกรณ์ และอาหารเช่นเดียวกัน
สรุป
เทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับไม่ได้มีไว้เพื่อให้คนใช้เดินทาง แต่มันยังสร้างประโยชน์ได้มากมาย โดยเฉพาะการขนส่งพัสดุต่างๆ ดังนั้นเทคโนโลยีนี้จึงเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ และผู้ผลิตรถยนต์หลายรายก็ต้องหันมาลงทุนเรื่องนี้เต็มที่ เพื่อใช้ให้บริการได้จริงในอนาคต
อ้างอิง // Japan Today
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา